ริยาด, ซาอุดีอาระเบีย, 8 ธันวาคม 2566 /PRNewswire/ — การประชุมสุดยอดไพรออริตีของสถาบันโครงการลงทุนเพื่ออนาคต (The Future Investment Initiative PRIORITY Summit) ที่ฮ่องกงเมื่อวันที่ 7 ธ.ค. ได้ดึงดูดนักลงทุน นวัตกร และผู้กำหนดนโยบายจากทั่วโลก เพื่อรับมือกับภัยคุกคามด้านเทคโนโลยี สภาพภูมิอากาศ และเศรษฐกิจ
FIII HONG KONG INVESTOR SUMMIT 7/8 DECEMBER BRINGS LEADERS TOGETHER TO ADDRESS HUMANITY’S BIGGEST CHALLENGES
นักลงทุนและผู้นำจากทั่วทั้งเอเชียได้รวมตัวกันที่ฮ่องกงร่วมกับพันธมิตรจากทั่วโลกในการประชุมสุดยอดระดับนานาชาติเพื่อจัดการกับความท้าทายระดับโลก และการระดมการลงทุนเพื่อเป็นพลังแห่งความดี
ฯพณฯ ยาซีร์ อัล-รูไมยาน (Yasir Al-Rumayyan) ผู้ว่าการกองทุนเพื่อการลงทุนสาธารณะของซาอุดีอาระเบีย และประธานสถาบันโครงการลงทุนเพื่ออนาคต (Future Investment Initiative (FII) Institute) กล่าวเปิดการประชุมสุดยอด Asia FII PRIORITY ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรก
ฯพณฯ คาลิด เอ. อัล-ฟาลีห์ (Khalid A. Al-Falih) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการลงทุนของซาอุดีอาระเบียก็ได้เข้าร่วมกับการประชุมสุดยอดดังกล่าวด้วย และได้เข้าร่วมในการอภิปราย โดยตั้งข้อสังเกตว่าภูมิภาคซีกโลกใต้กำลังมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมเศรษฐกิจโลก โดยได้รับการขับเคลื่อนโดยจำนวนประชากรและการเติบโตทางเศรษฐกิจ
คุณจอห์น ลี (John Lee) ผู้บริหารสูงสุดเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ได้ให้การต้อนรับสถาบัน FII เข้าสู่ฮ่องกง พร้อมด้วยคุณพอล เฉิน (Paul Chan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และคุณลอรา เอ็ม ฉา (Laura M Cha) ประธานตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง (HKEX) โดยคุณลีได้กล่าวปาฐกถาพิเศษแก่คณะผู้แทน โดยเน้นย้ำบทบาทของฮ่องกงในฐานะ “สุดยอดผู้เพิ่มมูลค่า” (super value adder) สำหรับเศรษฐกิจ วัฒนธรรม และประชาชนทั้งจากตะวันออกและตะวันตก ซึ่งเกิดขึ้นได้ด้วยหลักการ “หนึ่งประเทศ สองระบบ” อันเป็นเอกลักษณ์
การประชุมสุดยอดดังกล่าวซึ่งร่วมมือกับตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง (HKEX) ได้จัดขึ้นที่ศูนย์ประชุมคอนเน็คท์ฮอลล์แห่งตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง (HKEX Connect Hall) เมื่อวันที่ 7-8 ธ.ค. 2566
คุณนิโคลัส อากูซิน (Nicholas Aguzin) ซีอีโอของ HKEX เน้นย้ำถึงการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในภูมิทัศน์ทางภูมิรัฐศาสตร์ ด้วยการเคลื่อนตัวของอำนาจไปทางตะวันออก และความสำคัญที่เพิ่มขึ้นของตลาดหลักทรัพย์ในท้องถิ่นและความจำเป็นในการสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างต่อเนื่องในตลาดการเงิน
ในระหว่างการอภิปรายในหัวข้อ “บอร์ดผู้สร้างการเปลี่ยนแปลง” (Board of Changemakers) คุณริชาร์ด หลี่ (Richard Li) ประธานแปซิฟิก เซ็นจูรี กรุ๊ป (Pacific Century Group) ชี้ให้เห็นว่าการเปลี่ยนผ่านไปสู่ดิจิทัลทำให้บริการทางการเงินมีความเป็นประชาธิปไตยได้อย่างไร และช่วยให้ผู้ที่มีรายได้ทุกระดับสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ปรับให้เหมาะกับแต่ละคนได้
เนื่องในโอกาสสำคัญแห่งประวัติศาสตร์ของการเปิดตลาด จึงได้มีการจัดพิธีตีฆ้องแบบดั้งเดิม โดยมีคุณลอรา เอ็ม ฉา ประธาน HKEX, คุณจอห์น ลี ผู้บริหารสูงสุดเขตบริหารพิเศษฮ่องกง คุณพอล เฉิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของฮ่องกง พร้อมด้วย ฯพณฯ ยาซีร์ อัล-รูไมยาน ประธานสถาบัน FII และคุณริชาร์ด อัตเทียส (Richard Attias) ซีอีโอของสถาบัน FII รวมไปถึงผู้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดและผู้ชมจากทั่วโลกกว่า 1,000 คน ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธี
การประชุมสุดยอดดังกล่าวจัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “เมกะเทรนด์ที่เปลี่ยนแปลงมนุษยชาติ” (Megatrends Shaping Humanity) โดยกล่าวถึงผลกระทบของการผงาดขึ้นของเอเชียในฐานะมหาอำนาจด้านเทคโนโลยี เศรษฐกิจ และภูมิรัฐศาสตร์ ความก้าวหน้าของ AI และการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่นำมาสู่ชีวิตประจำวันของเรา รวมถึงการเรียกร้องให้มีความเป็นมนุษย์และมีความเห็นอกเห็นใจเพิ่มมากขึ้น ในฐานะที่ยึดเหนี่ยวเศรษฐกิจและสังคมในโลกที่มีความแตกแยกและไม่แน่นอน
คุณนิโคลัส โฮ (Nicholas Ho) กรรมาธิการแผนริเริ่มสายแถบและเส้นทาง กล่าวถึงฮ่องกงว่าเป็น “ศูนย์กลางระดับโลกที่แท้จริง” และกล่าวถึงวิสัยทัศน์ของเขาในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับฮ่องกงในฐานะสำนักงานใหญ่ระดับภูมิภาคสำหรับธุรกิจในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ (MENA)
คุณลอรา เอ็ม ฉา ชี้ให้เห็นว่าในบรรดากองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ 15 อันดับแรก 5 แห่งอยู่ในเอเชีย และ 6 แห่งอยู่ในตะวันออกกลาง จีนมีเงินทุนที่ยังไม่ได้ใช้ประโยชน์จากการออมส่วนบุคคลถึง 30 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และตะวันออกกลางก็มีศักยภาพที่คล้ายคลึงกัน เนื่องจากการเติบโตของซาอุดีอาระเบียและประเทศในกลุ่มคณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ (GCC) เธอระบุว่า “มันจะเป็นความเชื่อมโยงที่ยอดเยี่ยมซึ่งถูกมองข้ามในอดีต และขณะนี้ถึงเวลาแล้วสำหรับการแลกเปลี่ยนแบบสองทางทั้งในด้านเงินทุนและการพาณิชย์”
สถาบัน FII ดำเนินการวิจัยอย่างต่อเนื่องเพื่อระบุประเด็นสำคัญต่อพลเมืองทั่วโลก การสำรวจในปีนี้ทำการสำรวจความคิดเห็นผู้คน 50,000 รายจาก 23 ประเทศเพื่อระบุลำดับความสำคัญของมนุษยชาติ จากนั้นผลการวิจัยจะถูกนำมาใช้เพื่อกำหนดวาระนโยบายและรายการการประชุมสุดยอดของ FII ตัวอย่างเช่น การวิจัยในปีนี้เผยให้เห็นระดับความพึงพอใจของผู้คนทั่วโลกลดลงอย่างมากถึง 20% และความไม่พึงพอใจครอบคลุมหลายประเด็น เช่น ความกังวลด้านค่าครองชีพ ความโดดเดี่ยว เทคโนโลยี และสภาพอากาศ
ในส่วนของการเติบโตและการกำกับดูแล AI คุณอีริค ปูลิเยร์ (Eric Pulier) ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของวาทอม คอร์ปอเรชัน (Vatom Corporation) เน้นย้ำว่า หากจะให้อนาคตของ AI นั้นเอามนุษย์เป็นศูนย์กลางในระดับสากล ก็จำเป็นต้องฝึกอบรมโมเดล AI ด้วยชุดข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับท้องถิ่นและที่อนุรักษ์มรดกท้องถิ่น
โซลินา เชา (Solina Chau) ผู้ร่วมก่อตั้งฮอไรซอนส์ เวนเจอร์ส (Horizons Ventures) พูดคุยถึงความสำคัญของการปลูกฝังความอยากรู้อยากเห็นและการคิดสวนทางกับความจริงที่เกิดขึ้น (counterfactual thinking) เพื่อหลีกเลี่ยงอคติและนโยบายที่ไม่ดีในโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา นอกจากนี้ เธอยังกล่าวถึงการที่ผู้หญิงในภาคการเงินมีจำนวนน้อย และความจำเป็นในการมุ่งมั่นเพื่อความเท่าเทียมและการสนับสนุนซึ่งกันและกันต่อไป
ในการประชุมสุดยอด บีโอซี อินเตอร์เนชั่นแนล (BOC International) ได้ลงนามข้อตกลงความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับบริษัทเอสพีไอซี อินเตอร์เนชั่นแนล ไฟแนนซ์ (ฮ่องกง) คอมปานี (SPIC International Finance (Hong Kong) Company) เพื่อกระชับความร่วมมือด้านการเงินสีเขียว การลงทุนและการออกพันธบัตร และการดำเนินงานด้านทุนระหว่างประเทศ โดยคุณพอล เฉิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของฮ่องกง ได้เข้าร่วมเป็นสักขีพยานในข้อตกลงนี้ ในขณะที่สถาบัน FII ยังคงเรียกประชุมหน่วยงานระดับโลกที่การประชุมสุดยอดทั่วโลกเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินการเชิงบวกในประเด็นต่าง ๆ เช่น ความยั่งยืน
สถาบัน FII จัดแสดง 2 โครงการริเริ่มระดับรากหญ้าในฮ่องกงที่เน้นย้ำความยั่งยืนและระบบนิเวศในท้องถิ่น รีเดรส (Redress) เป็นองค์กรด้านสิ่งแวดล้อมที่มุ่งเร่งการเปลี่ยนผ่านสู่อุตสาหกรรมแฟชั่นหมุนเวียน ฟาร์ม เดอะ ซิตี้ (Farm the City) สร้างและจัดการฟาร์มในเมืองเพื่อเปลี่ยนพื้นที่ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์มาสร้างแหล่งอาหารออร์แกนิกที่มีคุณค่าทางโภชนาการ
การประชุมสุดยอดไพรออริตีของสถาบัน FII ในฮ่องกงสานต่อการสนทนาจากการประชุมซึ่งจัดที่กรุงริยาดเมื่อเดือนที่ผ่านมา โดยเป็นส่วนหนึ่งของโครงการประชุมสุดยอดระดับโลกที่กำลังดำเนินอยู่ ซึ่งจะจัดขึ้นครั้งต่อไปที่เมืองไมอามี (กุมภาพันธ์), กรุงลอนดอน (เมษายน) และบราซิล (มิถุนายน)
คุณริชาร์ด แอตเทียส ซีอีโอของสถาบันโครงการลงทุนเพื่ออนาคต กล่าวว่า
“เมกะเทรนด์กำลังเปลี่ยนวิถีชีวิตของเรา ความก้าวหน้าใน AI, ระบบอัตโนมัติ และบล็อกเชนกำลังเปิดประตูไปสู่อนาคตที่เรายังคาดไม่ถึง ขณะที่โลกกำลังเปลี่ยนแปลงและเอเชียมีบทบาทสำคัญ เรากำลังหารือถึงประเด็นระดับโลกที่มีความสำคัญต่อประชากร 8 พันล้านคนที่อาศัยอยู่บนโลกนี้ และเรียกร้องให้นักลงทุนใส่ใจกับการดำเนินนโยบาย”
เกี่ยวกับสถาบัน FII
สถาบันโครงการลงทุนเพื่ออนาคต หรือสถาบัน FII คือมูลนิธิไม่แสวงหาผลกำไรระดับโลกที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล โดยมีเครื่องมือการลงทุนและมีเป้าหมายเพียงหนึ่งเดียว นั่นคือ การสร้างอิทธิพลเชิงบวกต่อมนุษยชาติ เราดำเนินงานอย่างครอบคลุมในระดับโลก เราส่งเสริมผู้มีไอเดียดี ๆ จากทั่วโลกและเปลี่ยนไอเดียเหล่านั้นให้เป็นโซลูชันที่ใช้งานได้จริงในสี่ส่วนสำคัญด้วยกัน ได้แก่ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และวิทยาการหุ่นยนต์ การศึกษา การดูแลสุขภาพ และความยั่งยืน
รูปภาพ – https://mma.prnasia.com/media2/2296103/FIII_Hong_Kong_Investor_Summit.jpg?p=medium600
โลโก้ – https://mma.prnasia.com/media2/1811613/4445856/FII_Institute_Logo.jpg?p=medium600
The information provided in this article was created by Cision PR Newswire, our news partner. The author's opinions and the content shared on this page are their own and may not necessarily represent the perspectives of Thailand Business Directory.