พบกับเหล่าเชฟระดับนานาชาติอันทรงเกียรติที่จะมาตัดสินหาเชฟดาวรุ่งยอดเยี่ยมที่สุดในโลก

มิลาน, 29 สิงหาคม 2567 /PRNewswire/ — S.Pellegrino Young Chef Academy ภูมิใจที่จะประกาศรายชื่อคณะกรรมการระดับโลกที่จะทำหน้าที่เป็นผู้ตัดสินรอบชิงชนะเลิศของการแข่งขัน S.Pellegrino Young Chef Academy Competition ประจำปี 2567-68 เชฟเจ็ดคนที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในวงการอาหารโลกจะได้รับมอบหมายให้ค้นหาสุดยอดเชฟดาวรุ่งผู้มากพรสวรรค์ระดับโลกที่มีอายุต่ำกว่า 30 ปี ด้วยการประเมินอาหารจานเด่นที่นำเสนอโดยยึดตามกฎทองคำ 3 ข้อ เพื่อคัดเลือกเชฟดาวรุ่งที่แสดงทักษะทางเทคนิคที่แข็งแกร่งที่สุด ความคิดสร้างสรรค์อย่างแท้จริง และความเชื่อส่วนบุคคลที่ยอดเยี่ยมเกี่ยวกับศาสตร์การทำอาหาร

หากต้องการดูข่าวประชาสัมพันธ์มัลติมีเดีย โปรดคลิก:  
https://www.multivu.com/players/uk/9283351-spellegrino-young-chef-academy-competition-2024-25-unveils-global-jury/

สำหรับการแข่งขันครั้งที่หก คณะกรรมการเชฟชื่อดังระดับโลกประกอบด้วย:

  1. Christophe Bacquié ผู้ได้รับรางวัล Meilleur Ouvrier de France และเป็นเจ้าของร้าน La Table des Amis ที่ได้รับดาวมิชลิน 2 ดาว ซึ่งเปิดให้บริการในโพรวองซ์เมื่อปี 2566 เพื่อสานฝันการมอบประสบการณ์การทำอาหารที่อบอุ่นและเป็นกันเอง การถ่ายทอดศิลปะการทำอาหารให้ผู้อื่น และการให้คำปรึกษาแก่คนหนุ่มสาว รวมถึงการได้เห็นพวกเขาเอาชนะตัวเองคือสิ่งที่เขาชอบมากที่สุดในการทำครัว “กล้าทำคืออดทน: กล้าทำคือสร้างสรรค์” เป็นแนวทางส่วนตัวและคำเชิญชวนของเขาสำหรับเชฟรุ่นต่อ ๆ ไป
  2. Jeremy Chan เป็นเชฟและผู้ร่วมก่อตั้งร้าน Ikoyi ซึ่งเปิดเมื่อปี 2560 ร่วมกับเพื่อนสมัยเด็กของเขาและปัจจุบันเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจอย่าง Iré Hassan-Odukale ปัจจุบัน Chan เป็นผู้นำด้านการทำอาหาร ด้วยการผสมผสานเครื่องเทศ รสชาติ และประสบการณ์ส่วนตัวลงในเมนูของเขา ร้าน Ikoyi ได้รับรางวัลดาวมิชลิน 2 ดาวและอยู่ในอันดับที่ 42 ของรายชื่อ 50 ร้านอาหารที่ดีที่สุดในโลก ความกล้าหาญคือคำสำคัญของเขาในครัว และเขายังเตือนเชฟรุ่นใหม่ว่า “อย่าเอาแต่เดินตามเส้นทางที่คุ้นเคย แต่ให้ใส่ใจกับทุก ๆ วัตถุดิบ ทุกรายละเอียด เพื่อทำให้ทุกจานมีความพิเศษ”
  3. Antonia Klugmann เป็นเชฟและเจ้าของร้าน L’Argine a Vencò ที่ได้รับดาวมิชลิน 1 ดาว ตั้งอยู่ใน Dolegna del Collio หมู่บ้านใกล้ชายแดนสโลวีเนียในอิตาลี อาหารของเธอเป็นอาหารตามฤดูกาลโดยได้ใช้วัตถุดิบพื้นเมืองที่แสดงถึงความหลากหลายทางชีวภาพอันอุดมสมบูรณ์ของภูมิภาคฟรีอูลิ-เวเนเซีย จูเลียมาปรุง Klugmann ไม่เพียงแต่เป็นเชฟและผู้ประกอบการเท่านั้น แต่ยังเป็นเมนเทอร์ที่ดีเยี่ยมให้กับทีมงานของเธออีกด้วย “สิ่งที่ฉันมักจะพูดกับเด็ก ๆ ที่ทำงานกับฉันเสมอคือ ให้ตั้งคำถามกับตัวเลือกของพวกเขา เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะในครัว สิ่งสำคัญมากคือต้องถามตัวเองอยู่เสมอว่าคุณได้เลือกเส้นทางที่ถูกต้องหรือไม่ เพื่อไม่ให้พบว่าตัวเองมีอายุมากขึ้นและไม่มีความสุขในอีก 15 ปีต่อมา”
  4. Mitsuharu ‘Micha’ Tsumura เป็นเชฟชาวเปรูเชื้อสายญี่ปุ่น โปรเจกต์ที่เป็นตัวตนของเขาที่สุดคือร้านอาหาร Maido ในกรุงลิมา ซึ่งเปิดมากว่า 15 ปีแล้ว Maido ได้รับการยอมรับในระดับประเทศว่าเป็นร้านอาหารที่ดีที่สุดในเปรูเป็นเวลาติดต่อกัน 5 ปี และปัจจุบันอยู่ในอันดับหนึ่งในรายชื่อ 50 ร้านอาหารที่ดีที่สุดในลาตินอเมริกา (ซึ่งเคยครองตำแหน่งนี้ตั้งแต่ปี 2560 ถึง 2562 เช่นกัน) และอันดับที่ห้าในรายชื่อ 50 ร้านอาหารที่ดีที่สุดในโลก นอกจากนี้ Tsumura ยังเป็นเจ้าของร้าน Tori ในลิมา ซึ่งเป็นร้านอาหารที่เน้นไก่ย่าง ร้าน Mai Mai ในปานามา และร้าน Karai by Mitsuharu ในชิลี เขาเป็นเมนเทอร์ท้องถิ่นในปี 2565-66 รวมถึงเป็นกรรมการตัดสินท้องถิ่นและเมนเทอร์รอบชิงชนะเลิศในการแข่งขันครั้งแรกในปี 2558 คำแนะนำของเขาสำหรับคนรุ่นใหม่คือ ให้เปิดใจและเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง “คุณจะรู้ตัวในไม่ช้าว่าทุกอย่างในชีวิตไม่ได้เป็นการวิ่งระยะสั้น 100 เมตร แต่เป็นการวิ่งมาราธอนที่ยาวที่สุดเท่าที่เคยมีมา ซึ่งมีทั้งช่วงเวลาที่ขึ้นและลง จงอดทน และเรียนรู้จากความผิดพลาดของตัวเอง”
  5. Niki Nakayama เป็นเชฟชาวอเมริกันและเป็นเจ้าของร้านอาหาร n/naka สองดาวมิชลินในลอสแองเจลิส โดยเชี่ยวชาญด้านอาหารญี่ปุ่นแบบไคเซกิสมัยใหม่ สำหรับ Nakayama ปรัชญาไคเซกิช่วยให้เธอได้แสดงความชื่นชมอย่างลึกซึ้งต่อความงามของธรรมชาติ โดยมีจุดประสงค์เพื่อ “เน้นย้ำรสชาติที่เป็นธรรมชาติ นำเสนอในรูปแบบที่บริสุทธิ์ที่สุด โดยไม่ซับซ้อนเกินไป และเสิร์ฟตามฤดูกาล”  คำแนะนำของเธอสำหรับเชฟรุ่นใหม่คือ เชฟทุกคนมีส่วนร่วม ดังนั้นการเปิดใจเรียนรู้จากทุกคนจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการค้นหาแรงบันดาลใจ
  6. Elena Reyegadas เป็นบุคคลสำคัญในวงการวัฒนธรรมเม็กซิกันร่วมสมัย เธอเป็นเชฟและเจ้าของร้าน Rosetta ซึ่งเป็นร้านอาหารที่ได้รับดาวมิชลินและติดอันดับ 50 ร้านอาหารที่ดีที่สุดในโลก และ 50 ร้านอาหารที่ดีที่สุดในลาตินอเมริกา นอกจากนี้เธอยังเป็นเจ้าของร้าน Panadería Rosetta ซึ่งเธอได้สำรวจศิลปะการทำขนมปังควบคู่ไปกับกิจการด้านอาหารที่โดดเด่นอื่น ๆ ความมุ่งมั่นของเธอไม่หยุดอยู่แค่ในครัว ในปี 2565 เธอได้ก่อตั้งทุนการศึกษา Elena Reygadas ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนนักเรียนด้านการทำอาหารรุ่นเยาว์ ส่งเสริมโอกาสที่เท่าเทียมกัน และพัฒนาความเป็นผู้นำของผู้หญิงในวงการอาหาร สำหรับคนรุ่นใหม่ เธอบอกว่า “จงทำตามสัญชาตญาณของคุณ จงหลงใหล อยากรู้อยากเห็น เรียนรู้จากประเพณี”
  7. Julien Royer เป็นเชฟและเจ้าของร้าน Odette ซึ่งเป็นร้านอาหารฝรั่งเศสสมัยใหม่ที่ได้รับดาวมิชลิน 3 ดาวในหอศิลป์แห่งชาติสิงคโปร์ ชื่อ Odette เป็นการยกย่องคุณย่าของ Royer ซึ่งเป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตและในครัวของเขา สำหรับเด็กรุ่นใหม่มากพรสวรรค์ เขาบอกว่า “ผู้คนที่คุณพบเจอระหว่างทางนั้นสำคัญต่อการเติบโตของคุณ อย่าหยุดเรียนรู้จากเพื่อนร่วมงาน พาร์ทเนอร์ ซัพพลายเออร์ ผู้ร่วมสร้างสรรค์ และเพื่อนนักสร้าง สิ่งสำคัญคือต้องขยายโลกทัศน์ของคุณอย่างต่อเนื่อง และเปิดใจรับฟังมุมมองอื่น ๆ การสร้างประสบการณ์เป็นความพยายามร่วมกัน และเชฟที่ยอดเยี่ยมจะยิ่งใหญ่ได้ก็ต่อเมื่อทีมที่สนับสนุนและเชื่อมั่นในตัวเขาหรือเธอ ทำงานร่วมกันอย่างกลมกลืน”

ณ จุดนี้ของการแข่งขัน เชฟดาวรุ่งฝีมือดีที่สุดจากทั่วโลกที่ได้รับการคัดเลือกโดย ALMA พร้อมที่จะเข้าร่วมการแข่งขันรอบรองชนะเลิศระดับภูมิภาค ซึ่งจะจัดขึ้นตั้งแต่เดือนกันยายน 2567 ถึงมกราคม 2568 รอบชิงชนะเลิศระดับภูมิภาคถือเป็นโอกาสอันยิ่งใหญ่ในการเปิดตัว เนื่องจากเหล่าเชฟจะนำเสนออาหารจานเด่นของตนต่อคณะกรรมการตัดสินท้องถิ่นซึ่งประกอบด้วยเชฟชื่อดัง โดยทำหน้าที่คัดเลือกผู้ชนะระดับภูมิภาคของรางวัล S.Pellegrino Young Chef Award และรางวัลเพิ่มเติมอีกสามรางวัล ได้แก่ รางวัล S.Pellegrino Social Responsibility Award, รางวัล Acqua Panna Connection in Gastronomy Award และรางวัล Fine Dining Lovers Food for Thought Award ผู้ชนะระดับภูมิภาคจะได้แข่งขันชิงตำแหน่งระดับโลกที่รอบชิงชนะเลิศในปี 2568 โดยแสดงให้เห็นถึงทักษะในการเตรียมอาหารจานเด่นของตนต่อหน้าคณะกรรมการตัดสินระดับโลก

หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการริเริ่มนี้ โปรดไปยัง: www.sanpellegrinoyoungchefacademy.com 

เกี่ยวกับ S.Pellegrino และ Acqua Panna

S.Pellegrino, Acqua Panna และ Sanpellegrino Sparkling Drinks เป็นเครื่องหมายการค้าระหว่างประเทศของ Sanpellegrino S.p.A. ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี ผลิตภัณฑ์เหล่านี้วางจำหน่ายในกว่า 150 ประเทศ ผ่านสาขาและตัวแทนจำหน่าย 5 ทวีป โดยแสดงให้เห็นความเป็นเลิศด้านคุณภาพจากต้นกำเนิด และถ่ายทอดความเป็นอิตาเลียนออกไปทั่วโลกได้อย่างสมบูรณ์แบบ ในฐานะสัญลักษณ์แห่งความน่าอภิรมย์ สุขภาพ และความเป็นอยู่ที่ดี Sanpellegrino S.p.A. ก่อตั้งขึ้นในปี 2442 และเป็นบริษัทภาคอุตสาหกรรมเครื่องดื่มระดับชั้นนำของอิตาลี ที่ครอบคลุมทั้งน้ำแร่ เครื่องดื่มเรียกน้ำย่อยที่ไร้แอลกอฮอล์ เครื่องดื่ม และชาเย็น ในฐานะผู้ผลิตน้ำแร่รายใหญ่ของอิตาลีนั้น บริษัทมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับโลกใบนี้ และทำงานอย่างมีความรับผิดชอบและมุ่งมั่นเพื่อให้แน่ใจว่าทรัพยากรนี้มีอนาคตที่ปลอดภัย

รูปภาพ – https://mma.prnasia.com/media2/2473692/Sanpellegrino_Global_Jury.jpg?p=medium600 
โลโก้ – https://mma.prnasia.com/media2/1341607/4840256/SPYCA_Logo.jpg?p=medium600

The prestigious Global Jury who will crown the best young chef in the world
The prestigious Global Jury who will crown the best young chef in the world

 

 

Source : การแข่งขัน S.Pellegrino YOUNG CHEF ACADEMY ปี 2567-68 เผยโฉมคณะกรรมการตัดสินระดับโลก

The information provided in this article was created by Cision PR Newswire, our news partner. The author's opinions and the content shared on this page are their own and may not necessarily represent the perspectives of Thailand Business Directory.

Sign In

Register

Reset Password

Please enter your username or email address, you will receive a link to create a new password via email.