เหล่าผู้เชี่ยวชาญเน้นย้ำความสำคัญของการทำงานร่วมกันและการพัฒนานวัตกรรมเพื่อให้เกิดความก้าวหน้าในการรักษาโรคมะเร็ง
วอชิงตัน, 20 ธันวาคม 2566 /PRNewswire/ — การประชุมมะเร็งวิทยาของเบอร์จีล โฮลดิงส์ (Burjeel Holdings Oncology Conference) จัดขึ้นเป็นปีที่ 10 ร่วมกับนิตยสาร ฟอเรน โพลิซี (Foreign Policy) โดยได้มีการรวบรวมผู้เชี่ยวชาญระดับแนวหน้าของโลกเพื่อจัดการกับปัญหาความท้าทายที่ซับซ้อนในด้านการดูแลรักษาโรคมะเร็ง พร้อมกับเน้นย้ำความจำเป็นของการทำงานร่วมกันระหว่างผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลากหลายกลุ่ม เนื่องจากโรคมะเร็งคร่าชีวิตผู้ป่วยหลายล้านคนทั่วโลก และส่งผลกระทบต่อกลุ่มประเทศรายได้ต่ำและปานกลางมากเป็นพิเศษ การประชุมครั้งนี้จึงตอกย้ำความเร่งด่วนของการรับมือในระดับนานาชาติ และความเสมอภาคในการเข้าถึงการรักษาที่สามารถช่วยชีวิตผู้ป่วยได้
(From L to R) Dr. Juan Pablo Uribe, Dr. Catharine Young, Rep. Mike Kelly, Dr. Shamsheer Vayalil speaking at the 10th Burjeel Holdings Oncology Conference in Washington DC.
ดร.แคทธารีน ยัง (Catharine Young) ผู้ช่วยผู้อำนวยการด้านนโยบายและการมีส่วนร่วมของโครงการแคนเซอร์ มูนช็อต (Cancer Moonshot) ของทำเนียบขาว ได้ชูความสำคัญของการทำงานร่วมกันและการพัฒนานวัตกรรม เพื่อบรรลุเป้าหมายอันยิ่งใหญ่ของโครงการแคนเซอร์ มูนช็อต นั่นคือ การลดอัตราการเสียชีวิตจากโรคมะเร็งให้ได้ 50% ภายใน 25 ปี
คุณไมค์ เคลลี (Mike Kelly) สมาชิกสภาคองเกรส และประธานร่วมของคณะทำงานด้านโรคมะเร็งแห่งสภาคองเกรส (Congressional Cancer Caucus) ได้เน้นย้ำถึงบทบาทสำคัญของสภาคองเกรสในการสนับสนุนการวิจัยและการดูแลรักษาผู้ป่วย พร้อมกับเรียกร้องให้มีการสนับสนุนเงินทุนให้แก่สถาบันมะเร็งแห่งชาติ (National Cancer Institute) รวมทั้งจัดการกับความท้าทายด้านการเข้าถึงการรักษาและความสามารถในการจ่ายค่ารักษา นอกจากนี้ เขาได้เน้นย้ำความจำเป็นของการ “เชื่อมโยงผู้คน” และคำนึงถึงประสบการณ์ของผู้คน ขณะที่คุณแฮนนาห์ อดัมส์ (Hannah Adams) ผู้รอดชีวิตจากโรคมะเร็งในเด็ก ได้กล่าวย้ำเตือนผู้ฟังว่า “การสนับสนุนที่มีประสิทธิผลสูงสุดจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ป่วยโรคมะเร็งในเด็ก”
ในการอภิปรายหัวข้ออนาคตของการดูแลรักษาโรคมะเร็ง ได้มีการสำรวจศักยภาพของ AI รวมถึงแง่มุมด้านความเสมอภาค และการเข้าถึงการรักษาในระดับโลก โดยดร.แดเนียลล์ บิทเทอร์แมน (Danielle Bitterman) แพทย์รังสีรักษาและมะเร็งวิทยา และนักวิจัย AI ประจำโรงพยาบาลบริกแฮม แอนด์ วีเมนส์ (Brigham and Women’s Hospital) และสถาบันมะเร็งเดนา-ฟาร์เบอร์ (Dana-Farber Cancer Institute) ได้เน้นย้ำถึงศักยภาพของ AI ในการสร้างความเสมอภาคด้านการเข้าถึงการรักษา ขณะที่ดร.เจสัน ฮิปป์ (Jason Hipp) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายนวัตกรรมดิจิทัล บริษัท มาโย คอลลาบอเรทีฟ เซอร์วิสเซส (Mayo Collaborative Services) เน้นย้ำความจำเป็นของการมีชุดข้อมูลที่หลากหลาย เพื่อสนับสนุนการรักษาคุณภาพสูงและความเป็นธรรมในการเข้าถึงการรักษาสำหรับทุกคน
ดร.อันชู เจน (Dr. Anshu Jain) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการแพทย์ บริษัท แอสเตอร์ อินไซต์ส (Aster Insights) กล่าวถึงความจำเป็นของการเข้าถึงการรักษาอย่างเท่าเทียม โดยเปรียบเปรยว่า “ไม่ว่าคนตัวสูงหรือคนตัวเล็กต่างก็พยายามเอื้อมให้ถึงการรักษา”
คุณเฟลิเซีย กอรอร์โด (Felicia Gorordo) กรรมการบริหารหมุนเวียนของสหรัฐอเมริกาประจำกลุ่มธนาคารโลก (World Bank Group) ชูพันธกิจในการบูรณาการสุขภาพดิจิทัลและการเข้าถึงการรักษาไว้ในโครงการต่าง ๆ ขององค์กร
สำหรับการอภิปรายในหัวข้อความเสมอภาคทางสุขภาพ มุ่งเน้นไปที่แนวทางที่ปฏิบัติได้จริง โดยคุณมานัน ชาห์ (Manan Shah) รองประธานฝ่ายความเสมอภาคทางสุขภาพและความร่วมมือด้านนโยบาย บริษัท บริสตอล ไมเยอร์ส สควิบบ์ (Bristol Myers Squibb) สนับสนุนให้คำนึงถึงปัจจัยทางสังคมที่กำหนดสุขภาพ ตลอดจนปัจจัยต่าง ๆ ที่ทำให้ผู้ป่วยเข้ารับการรักษา ขณะที่คุณแกรี เอ. พัคเรน (Gary A. Puckrein) ประธานและซีอีโอขององค์กรเนชันแนล ไมนอริตี ควอลิตี ฟอรัม (National Minority Quality Forum) เน้นย้ำความจำเป็นของรูปแบบการดูแลรักษาที่มีคุณภาพและมีความยืดหยุ่นสำหรับกลุ่มเปราะบาง
ดร.แชมเชียร์ วายาลิล (Shamsheer Vayalil) ผู้ก่อตั้งและประธานบริษัท เบอร์จีล โฮลดิงส์ (Burjeel Holdings) กล่าวย้ำว่า ช่วงเวลาปัจจุบันนี้ “เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการจัดการกับโรคมะเร็ง” เนื่องจากการตั้งรับปรับตัวและความตระหนักรู้เรื่องสุขภาพเพิ่มขึ้นหลังเกิดวิกฤตโรคระบาด พร้อมกับเน้นย้ำว่าต้องให้ความสำคัญกับคนทุกกลุ่ม อุดช่องว่างด้านความเสมอภาคทางสุขภาพ ตลอดจนพัฒนาข้อมูล เทคโนโลยี และการฝึกอบรมเพื่อเอาชนะความท้าทายนานัปการ
ดร.จูลี กราโลว์ (Julie Gralow) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการแพทย์และรองประธานบริหารของสมาคมมะเร็งวิทยาแห่งอเมริกา (American Society of Clinical Oncology) เน้นเรื่องการร่วมมือกับผู้ป่วยและผู้สนับสนุนเพื่อก้าวข้ามอุปสรรคต่าง ๆ
ดร.ฮวน ปาโบล อูริเบ (Juan Pablo Uribe) ผู้อำนวยการระดับโลกด้านสุขภาพ โภชนาการ และประชากร และการระดมทุนระดับโลกของธนาคารโลก (World Bank) เน้นย้ำว่ายังขาดโซลูชันหนึ่งเดียวในการแก้ปัญหาช่องว่างด้านการระดมทุนในระดับโลก
ทั้งนี้ การประชุมมะเร็งวิทยาของเบอร์จีล โฮลดิงส์ เป็นกิจกรรมอันทรงพลังที่กระตุ้นให้ผู้คนหันมาสนับสนุนการวิจัย ส่งเสริมนโยบายที่ยึดผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง และสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับโรคมะเร็ง
เกี่ยวกับเบอร์จีล โฮลดิงส์
เบอร์จีล โฮลดิงส์ (Burjeel Holdings) ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2550 โดยเป็นองค์กรเอกชนชั้นนำผู้ให้บริการสุขภาพในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ บริษัทมีเครือข่ายสถานประกอบการ 68 แห่ง ซึ่งประกอบด้วยโรงพยาบาล 16 แห่ง และศูนย์การแพทย์ 30 แห่ง รวมไปถึงร้านขายยาและบริการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งดูแลผู้ป่วยด้วยมาตรฐานสูงสุด โดยมีเบอร์จีล เมดิคอล ซิตี (Burjeel Medical City) เป็นสถานประกอบการระดับเรือธง ในฐานะศูนย์มะเร็งและการรักษาแบบประคับประคองเชิงบูรณาการที่ผ่านการรับรองมาตรฐานจากสมาคมมะเร็งวิทยาแห่งยุโรป (ESMO) เป็นแห่งแรกในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ทั้งยังเป็นผู้นำด้านการรักษาโรคมะเร็งในภูมิภาคอีกด้วย
สื่อมวลชนกรุณาติดต่อ: เอ็ม. อุนนิกฤษณัน (M. Unnikrishnan)
อีเมล: krish@burjeelholdings.com
รูปภาพ: https://mma.prnasia.com/media2/2304307/Burjeel_Holdings_Oncology_Conference.jpg?p=medium600
โลโก้: https://mma.prnasia.com/media2/2304306/Burjeel_Holdings_Logo.jpg?p=medium600
Source : ครบรอบ 10 ปี การประชุมมะเร็งวิทยาของเบอร์จีล โฮลดิงส์ ชูความเสมอภาคในการรักษาโรคมะเร็ง
The information provided in this article was created by Cision PR Newswire, our news partner. The author's opinions and the content shared on this page are their own and may not necessarily represent the perspectives of Thailand Business Directory.