 |
- KSA ปลดล็อกการลงทุนครั้งใหม่มูลค่า 42 พันล้านริยัลซาอุดีอาระเบีย (11 พันล้านดอลลาร์) ให้แก่ภาคธุรกิจการบริการ
- โครงการริเริ่มผู้ช่วยจัดการการลงทุนในภาคบริการ (Hospitality Investment Enablers) มีเป้าหมายเพื่อสร้างงานใหม่ 120,000 ตำแหน่ง
ริยาด ซาอุดีอาระเบีย, 5 มีนาคม 2567 /PRNewswire/ — รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวแห่งซาอุดีอาระเบีย ฯพณฯ อาเหม็ด อัล คาตีบ (Ahmed Al-Khateeb) เปิดตัวโครงการที่จะสนับสนุนให้ภาคธุรกิจการท่องเที่ยวของประเทศเติบโตอย่างรวดเร็ว
Saudi Arabia unlocks multi-billion dollar investments as part of its wider drive to become a global tourism powerhouse
ทั้งนี้ โครงการผู้ช่วยการลงทุนในภาคธุรกิจท่องเที่ยว (Tourism Investment Enabler Program) หรือ TIEP ที่ตั้งเป้าหมายไว้สูงนี้ มีเป้าหมายเพื่อให้นักลงทุนจากต่างประเทศและในประเทศสามารถทำธุรกิจในภาคธุรกิจท่องเที่ยวของซาอุดีอาระเบียได้ง่ายขึ้นและคุ้มค่ากับต้นทุนมากยิ่งขึ้นเพื่อสร้างความมั่งคั่งในแวดล้อมการลงทุนภาคธุรกิจท่องเที่ยวที่มีการแข่งขันสูงมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ด้วยการมอบสิ่งริเริ่มต่าง ๆ ให้มากมาย
โดยกระทรวงการท่องเที่ยวแห่งซาอุดีอาระเบียได้ร่วมมือกับกระทรวงการลงทุน ออกแบบโครงการผู้ช่วยการลงทุนในภาคบริการ (Hospitality Investment Enablers) ในระดับเรือธง ที่เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ TIEP ในระดับกว้าง โครงการริเริ่มครั้งนี้จะส่งเสริมและเพิ่มความสามารถในการจัดหาบริการด้านอาหารและที่พักในจุดหมายการท่องเที่ยวตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ รวมทั้งยังทำให้ซาอุดีอาระเบียสามารถมอบบริการที่มีความหลากหลายมากขึ้น และถือเป็นย่างก้าวที่มีความสำคัญต่อสถานะของประเทศในการเป็นจุดหมายการท่องเที่ยวชั้นนำระดับโลก
โครงการริเริ่มแบบครอบคลุมดังกล่าวจะมีเป้าหมายเพื่อเร่งให้เกิดการลงทุนของภาคเอกชนในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสำคัญทั่วทั้งราชอาณาจักร ด้วยมูลค่าการลงทุนสูงสุดถึง 42 พันล้านริยัลซาอุดีอาระเบีย (11 พันล้านดอลลาร์) และผลักดันให้ค่าจีดีพี (GDP) รายปีโดยประมาณการเพิ่มขึ้น 16 พันล้านริยัลซาอุดีอาระเบีย (4 พันล้านดอลลาร์) ในปี 2573
โดยโครงการริเริ่มเรือธงนี้ประกอบไปด้วยกลุ่มระบบผู้ช่วยเชิงยุทธศาสตร์ที่ออกแบบมาเพื่อปรับปรุงกระบวนการดำเนินธุรกิจและความเป็นไปได้ของโครงการ โดยมีผู้ช่วยสำคัญ ได้แก่ การส่งเสริมให้สามารถเข้าถึงที่ดินที่รัฐบาลเป็นเจ้าของภายใต้ข้อตกลงที่เอื้อประโยชน์ การปรับปรุงกระบวนการพัฒนาโครงการให้คล่องตัวขึ้น และลดอุปสรรคที่ขัดขวางการเข้าสู่ตลาด ทั้งยังได้ปรับเปลี่ยนกฎระเบียบต่าง ๆ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามลดต้นทุนการดำเนินงานให้ต่ำลง และส่งเสริมให้เกิดการเติบโตของอุตสาหกรรมนี้
โครงการริเริ่มนี้มีแง่มุมที่โดดเด่น คือ การมุ่งความสนใจที่การสร้างประโยชน์ให้แก่ชุมชนในท้องถิ่นทั่วทั้งจุดหมายการท่องเที่ยวต่าง ๆ ซึ่งโปรแกรมนี้มีเป้าหมายสร้างผลประโยชน์โดยตรงให้แก่หลายภาคธุรกิจ โดยจำกัดให้การบริการต่าง ๆ อยู่ภายในท้องถิ่น เช่น การทำสัญญา การออกแบบ และการให้คำปรึกษา ทั้งนี้ แนวทางนี้ ร่วมด้วยเงินลงทุนกว่า 800 พันล้านดอลลาร์เพื่อเปลี่ยนโฉมภูมิทัศน์การท่องเที่ยว ได้เน้นย้ำให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของซาอุดีอาระเบียในการยกระดับมาตรฐานของอุตสาหกรรม และเพื่อมอบโอกาสการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงแก่นักลงทุน
ซาอุดีอาระเบียคาดหวังว่าโครงการริเริ่มนี้จะสามารถสร้างผลที่มีนัยสำคัญต่อภูมิทัศน์ด้านเศรษฐกิจและสังคม สร้างสถานที่พักใหม่ได้อีก 42,000 ห้อง และสร้างโอกาสการจ้างงานประมาณ 120,000 ตำแหน่ง ผลักดันให้การพัฒนาความสามารถมีความก้าวหน้า และสนับสนุนความพยายามลดการจ้างแรงงานต่างชาติและจ้างงานชาวซาอุดีฯ ให้มากขึ้นตามโครงการ Saudization
โครงการ TIEP ในระดับกว้างนี้ยังรวมถึงการปฏิวัติกฎระเบียบของกระบวนการออกใบอนุญาตในภาคธุรกิจท่องเที่ยวให้แก่การดำเนินธุรกิจหลากหลายประเภทและขนาดที่มีอยู่ในตอนนี้ เพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการเฉพาะของนักลงทุนมากยิ่งขึ้น
กระทรวงการท่องเที่ยวได้ทำงานร่วมกับพันธมิตรในทุกภาคส่วนของรัฐ เพื่อให้บรรลุถึงเส้นทางการลงทุนที่ถูกปรับให้มีความคล่องตัวมากขึ้น โดยผลักดันให้ค่าธรรมเนียมรายปีของรัฐลดลงเกือบ 22% และตั้งเป้าหมายที่จะลดค่าธรรมเนียมลงอีกในอนาคตอันใกล้
การริเริ่มที่สำคัญอีกประการของ TIEP คือ ระบบบริการเพื่อการลงทุนในภาคธุรกิจท่องเที่ยวแบบครบวงจรในจุดเดียว (Tourism Investment One Stop Shop) ที่จะเปิดตัวภายหลังในปีนี้ ภายใต้ความร่วมมือกับศูนย์ธุรกิจซาอุดีฯ (Saudi Business Center) โดยระบบบริการแบบเบ็ดเสร็จ หรือ One Stop Shop ดังกล่าวจะมอบบริการในระบบนิเวศการท่องเที่ยวทั้งหมดให้ภายใต้ระบบเดียว และให้การสนับสนุนนักลงทุนตลอดเส้นทางการลงทุนอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ รวมทั้งยังมอบประสบการณ์ทางดิจิทัลและการบูรณาการทางออนไลน์
ฯพณฯ อาเหม็ด อัล คาตีบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวแห่งซาอุดีอาระเบีย กล่าวว่า “ซาอุดีอาระเบียมอบวัฒนธรรมและประสบการณ์ที่มีความหลากหลายและรุ่มรวยให้แก่โลก นโยบายวิสัยทัศน์สำหรับปี 2573 (Vision 2030) ส่งให้ซาอุดีอาระเบียอยู่บนเส้นทางไปสู่การเป็นผู้มีอิทธิพลด้านธุรกิจท่องเที่ยวในระดับโลก โดยมีภาคธุรกิจท่องเที่ยวของซาอุดีฯ ที่เป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญให้เกิดการเพิ่มความหลากหลายทางเศรษฐกิจ
“ในปี 2556 ความต้องการขอใบอนุญาตเพื่อทำกิจกรรมการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 390% และนี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น ในอีก 10 ปีข้างหน้า ซาอุดีอาระเบียจะเป็นนักลงทุนชั้นนำของโลกในภาคธุรกิจนี้ ขณะที่เรายังคงเดินหน้าเพื่อปลดล็อกศักยภาพของประเทศของเราต่อไป“
ซาอุดีอาระเบียสามารถบรรลุผลหนึ่งในเป้าหมายหลักของวิสัยทัศน์สำหรับปี 2573 (Vision 2030) ในการต้อนรับนักท่องเที่ยว 100 ล้านคนได้แล้วก่อนกำหนดถึงเจ็ดปี และโปรแกรมผู้ช่วยการลงทุนในภาคธุรกิจท่องเที่ยวนี้เป็นตัวเร่งสำคัญที่จะทำให้สามารถบรรลุผลตามเป้าหมายที่ตั้งไว้สูงยิ่งกว่า เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยว 150 ล้านคนต่อปี
อินโฟกราฟิก – https://mma.prnasia.com/media2/2354036/Saudi_Arabia_Infographic.jpg?p=medium600
โลโก้ – https://mma.prnasia.com/media2/2351392/Ministry_of_Tourism_KSA_Logo.jpg?p=medium600
The information provided in this article was created by Cision PR Newswire, our news partner. The author's opinions and the content shared on this page are their own and may not necessarily represent the perspectives of Thailand Business Directory.