ผลวิจัยใหม่พบว่า เยาวชนจำนวนมากขาดความมั่นใจในร่างกายของตนเอง สมาธิสั้น และขาดเป้าหมายในชีวิต
ซิดนีย์, 9 กรกฎาคม 2567 /PRNewswire/ — ผลการศึกษาสุขภาวะของเยาวชนระดับชาติ ซึ่งจัดทำโดย Year13 แพลตฟอร์มให้คำแนะนำแก่เยาวชนเพื่อก้าวเข้าสู่โลกของการทำงาน ร่วมกับ Scape เจ้าของและผู้ดำเนินการหอพักนักศึกษาที่สร้างขึ้นโดยเฉพาะรายใหญ่ที่สุดในออสเตรเลีย เผยให้เห็นว่า เยาวชนกลุ่มเจนแซด (Gen Z) เกินครึ่งหนึ่งต้องการเข้ารับการบำบัดรักษาสุขภาพจิต ซึ่งแสดงให้เห็นว่าความช่วยเหลือเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับคนออสเตรเลียกลุ่มนี้ที่ต้องประสบกับความวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้า นอกจากนี้ ผลวิจัยใหม่ยังเผยให้เห็นอัตราการเพิ่มขึ้นของโรคไม่พอใจในรูปร่างหน้าตาตัวเอง (21%) และโรคสมาธิสั้น (27%) ในกลุ่มเยาวชนออสเตรเลีย รวมถึงความรู้สึกผิดหวังท้อแท้เกี่ยวกับอนาคตของตนเอง โดย 65% ระบุว่าตนเองไม่มีเป้าหมายในชีวิต อย่างไรก็ดี โดยรวมแล้วพบว่า 53% ของเยาวชนอายุ 18-24 ปีเคยเข้ารับการบำบัดรักษาสุขภาพจิต ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเยาวชนกลุ่มนี้เน้นแก้ปัญหาเชิงรุกเพื่อจัดการกับสุขภาพจิตของตนเอง
ดัชนีสุขภาวะของคนเจนแซด (Gen Z Wellbeing Index) ประจำปี 2567 ซึ่งจัดทำขึ้นในเดือนพฤษภาคม 2567 ได้สำรวจสุขภาพจิต การออกกำลังกาย การนอนหลับ และการรับประทานอาหารของเยาวชนออสเตรเลียมากกว่า 2,000 คน และผู้อาศัยในหอพักนักศึกษาของ Scape มากกว่า 1,000 คนที่มีอายุ 18-24 ปี ซึ่งเป็นตัวแทนของกลุ่มประชากรเยาวชนที่สำเร็จการศึกษาแล้ว และมีการติดตามความก้าวหน้านับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2566 โดยผลลัพธ์ในรายงานช่วยให้ Scape สามารถเปรียบเทียบสุขภาวะของผู้อาศัยในหอพักกับสุขภาวะของเยาวชนทั่วประเทศ ซึ่งแต่ละคนทำแบบสำรวจสุขภาวะเหมือนกันในเวลาเดียวกัน โดยผลลัพธ์แสดงให้เห็นว่าเยาวชนที่อาศัยอยู่กับ Scape ทำผลงานโดยเฉลี่ยได้ดีกว่าเยาวชนออสเตรเลียโดยรวม
ผลการศึกษาในปี 2567 เผยให้เห็นว่า เยาวชนออสเตรเลียมากกว่า 2 ใน 3 เผยว่าตนเองนอนหลับไม่เพียงพอ (69%) และมากกว่าครึ่งหนึ่งบอกว่าตนเองเป็นโรควิตกกังวล (56%) ขณะที่ 2 ใน 5 บอกว่าตนเองประสบความยากลำบากในการหาเพื่อน (40%) ส่วน 1 ใน 3 รู้สึกโดดเดี่ยว (35%) และโดยรวมแล้ว เกือบครึ่งหนึ่งระบุว่าสุขภาพจิตของตนเองพอใช้หรือไม่ดีนัก (43%)
ผลวิจัยยังพบว่า 2 ใน 3 ของเยาวชนออสเตรเลียกล่าวว่าตนเองไม่ได้ใช้เวลานอกบ้านมากพอ (67%) รวมถึงรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพไม่เพียงพอ (64%) และออกกำลังกายไม่เพียงพอ (61%) นอกจากนี้ เยาวชนประมาณครึ่งหนึ่งกล่าวว่าผูกสัมพันธ์กับเพื่อน (49%) หรือครอบครัว (46%) ไม่มากพอ
ผลวิจัยเผยให้เห็นถึงอิทธิพลด้านลบอันดับต้น ๆ ที่มีต่อสุขภาวะของเยาวชนในปี 2567 โดยเยาวชนออสเตรเลียมากกว่าครึ่งหนึ่งระบุว่า การตัดสินใจเรื่องอนาคตของตนเอง (56%) ระดับความเหนื่อยล้า (56%) ค่าครองชีพที่สูงขึ้น (53%) และภาวะหมดไฟ (51%) ส่งผลเสียต่อสุขภาวะของตนเอง
ขณะที่ 2 ใน 5 ของเยาวชนออสเตรเลียเผยว่ามีความภาคภูมิใจในตนเองต่ำ (43%) ไม่พอใจในรูปร่างหน้าตาตัวเอง (41%) และกังวลต่อการเข้าสังคม (40%) นอกจากนี้ มากกว่า 1 ใน 3 เผยว่ากำลังทุกข์ทรมานจากภาวะซึมเศร้า (35%)
เมื่อพูดถึงปัญหาใหญ่ในปัจจุบัน เยาวชนมากกว่าครึ่งหนึ่งกล่าวว่า ความรุนแรงต่อผู้หญิง (53%) เป็นหนึ่งในปัญหาสำคัญที่รู้สึกกังวล โดยถือเป็นปัญหาใหญ่อันดับ 3 ที่เจนแซดกังวล เป็นรองแค่ปัญหาค่าครองชีพ (77%) และความสามารถในการซื้อ/เช่าที่อยู่อาศัย (63%) นอกจากนั้นยังถูกมองว่าเป็นปัญหาใหญ่กว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (49%) อีกด้วย
Will Stubley ผู้ร่วมก่อตั้ง Year13 แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับผลการวิจัยนี้ว่า “การทำความเข้าใจเกี่ยวกับความท้าทายเร่งด่วนที่สุดที่เยาวชนออสเตรเลียต้องเผชิญนั้น ตอกย้ำถึงความสามารถของประเทศเราในการให้การสนับสนุนที่มีความหมายอย่างแท้จริงแก่เยาวชน สิ่งที่ชัดเจนคือ เรามีคนทั้งเจนที่ต้องการความช่วยเหลือและการส่งเสริมด้านสุขภาวะ ซึ่งเราสามารถทำได้ด้วยการนำเสนอกลยุทธ์ที่ปฏิบัติได้จริงและการสร้างความยืดหยุ่นเพื่อให้เยาวชนกลุ่มนี้มีชีวิตที่มีความสุขและมีสุขภาพดี”
“การวัดสุขภาวะของเยาวชนเป็นประจำทุกปีสามารถให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความท้าทายและความสำเร็จของเยาวชน ตลอดจนระบุประเด็นสำคัญที่น่ากังวลและจำเป็นต้องได้รับการแก้ไข เพื่อให้เราสามารถยกระดับสุขภาพและสุขภาวะโดยรวมของเยาวชนออสเตรเลียและของประเทศออสเตรเลียทั้งหมด” เขากล่าวเสริม
ดัชนีสุขภาวะของคนเจนแซดประจำปี 2567 ตอกย้ำให้เห็นถึงประโยชน์ของหอพักนักศึกษาที่สร้างขึ้นโดยเฉพาะ ซึ่งส่งผลดีต่อเยาวชนที่อาศัยอยู่กับ Scape อย่างชัดเจน โดยชี้ให้เห็นว่าการย้ายออกจากบ้านไปอยู่หอพักนักศึกษาที่สร้างขึ้นโดยเฉพาะซึ่งมีมาตรการส่งเสริมสุขภาวะเชิงรุกนั้น อาจมีบทบาทสำคัญในการยกระดับสุขภาวะของเยาวชนโดยรวม
ยกตัวอย่างเช่น นักศึกษาที่พักอยู่กับ Scape ระบุว่ามีการผูกสัมพันธ์กับผู้อื่นมากกว่าและมีสุขภาพทางสังคมดีเยี่ยม (17% เทียบกับค่าเฉลี่ยทั่วประเทศที่ 13%) มีความรู้สึกไม่แบ่งแยกและเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม (77% เทียบกับ 69%) และรู้สึกว่าสุขภาวะโดยรวมดีขึ้นอย่างมากเนื่องจากความรู้สึกไม่ดีลดลง ทั้งความวิตกกังวล (35% เทียบกับ 56%) ซึมเศร้า (17% เทียบกับ 35%) โดดเดี่ยว (25% เทียบกับ 35%) หรือกังวลต่อการเข้าสังคม (24% เทียบกับ 40%)
ในปีที่ผ่านมานั้น Scape มีความก้าวหน้าสำคัญในการส่งเสริมสุขภาวะของเจนแซด โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างเสริมประสบการณ์โดยรวมของนักศึกษาและสุขภาวะของผู้พักอาศัย ซึ่งรวมถึงการดำเนินโครงการต่าง ๆ เช่น Safe TALK เวิร์กช็อปป้องกันการฆ่าตัวตายสำหรับผู้อาศัยใน Scape โดยเฉพาะ และ Velocity Empowerment เวิร์กช็อปที่มุ่งเน้นส่งเสริมความสัมพันธ์ที่ดีทั้งทางร่างกาย อารมณ์ และจิตใจ
ขณะเดียวกัน เพื่อส่งเสริมการผูกสัมพันธ์ภายในสังคมและชุมชน ซึ่งถือเป็นกลไกขับเคลื่อนหลักสำหรับคนเจนแซด Scape ยังได้สร้างสรรค์และจัดกิจกรรมสำหรับนักศึกษามากกว่า 500 กิจกรรม และมีนักศึกษาเข้าร่วมมากกว่า 10,000 คนในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 นอกจากนี้ การใช้งานแอป Safety & Wellbeing App by Sonder ยังเพิ่มขึ้นถึง 533% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งช่วยให้ผู้อาศัยมีส่วนร่วมมากกว่าที่เคย
Anouk Darling ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Scape Australia กล่าวว่า “ดัชนีสุขภาวะของคนเจนแซดประจำปี 2567 สะท้อนให้เห็นว่า Scape ตั้งใจดำเนินการในทุกขั้นตอนเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของนักศึกษาที่มองว่า Scape เป็นบ้านอีกหลังหนึ่ง โดยในช่วงเวลาที่คนเจนแซดกำลังเผชิญกับโลกรอบตัวที่เปลี่ยนแปลงไปแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน จนอาจทำให้รู้สึกอ่อนแอและท้อแท้ใจที่สุด เราได้มอบที่พักพิงที่สามารถเรียกได้ว่าเป็นบ้าน และเป็นที่สำหรับการอยู่อาศัยที่ดีด้วย เรามีกิจกรรมมากมายให้เลือกทำ ตั้งแต่หลักสูตรส่งเสริมสุขภาวะ การออกกำลังกาย ไปจนถึงโภชนาการ นอกจากนี้ เรายังจัดเตรียมอาหาร พื้นที่พักผ่อน และสิ่งอำนวยความสะดวกที่จะช่วยให้ผู้อยู่อาศัยประสบผลสำเร็จในที่สุด”
“พวกเขานอนหลับได้ดีขึ้น สุขภาพจิตดีขึ้น ผูกสัมพันธ์กันมากขึ้น และได้รับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการทุกวัน ผลวิจัยนี้เป็นข้อพิสูจน์อีกประการหนึ่งว่า สำหรับหอพักนักศึกษาที่สร้างขึ้นโดยเฉพาะนั้น หากดำเนินการอย่างถูกต้องแล้ว ก็สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของเยาวชนให้ดีขึ้นได้จริง” เธอกล่าวเสริม
อ่านรายงานดัชนีสุขภาวะของคนเจนแซดประจำปี 2567 ฉบับเต็มได้ที่ https://www.scape.com.au/genzwellbeingindex/
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรูปภาพได้ที่ Cassette PR:
Claire Pope Senior Consultant claire.p@cassette.com.au 0422 227 894
Merilla Colovic Strategy Director – Property PR merilla@cassette.com.au 0405 435 248
Ian Walker PR Manager, Year 13 ian@year13.com.au 0401 855 086
Annie Mulders National Partnerships annie.mulders@year13.com.au 0418449711
Director, Year13
เกี่ยวกับ SCAPE AUSTRALIA
Scape เปิดตัวในออสเตรเลียเมื่อปี 2557 และนับตั้งแต่นั้นมาก็ได้กลายเป็นเจ้าของและผู้ดำเนินการหอพักนักศึกษาที่สร้างขึ้นโดยเฉพาะรายใหญ่ที่สุดในออสเตรเลีย โดย Scape มีเตียงมากกว่า 17,000 เตียง ในอาคาร 36 หลังทั่วเขตการศึกษาที่สำคัญ 4 แห่งของออสเตรเลีย ได้แก่ ซิดนีย์ เมลเบิร์น บริสเบน และแอดิเลด รวมทั้งยังมีอาคารอีก 8 หลังที่อยู่ในระหว่างการวางแผนและการพัฒนา ซึ่งจะทำให้มีจำนวนเตียงเพิ่มขึ้นเป็น 22,000 เตียง ภายในปี 2568
Scape มีพนักงานมากกว่า 700 คน และเป็นนักลงทุนรายใหญ่ที่สุดในภาคการอุดมศึกษาของออสเตรเลีย โดยมีทุนจดทะเบียน 8 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลียนับตั้งแต่ปี 2561
เกี่ยวกับ YEAR13
Year13 ก่อตั้งขึ้นในปี 2554 โดยเป็นบริษัทเทคโนโลยีการศึกษาและสำนักพิมพ์ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนให้เยาวชนมีชีวิตที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น มีความสุขมากขึ้น และมีสุขภาพดีขึ้น ด้วยพันธกิจในการช่วยเหลือเยาวชนให้เปลี่ยนผ่านจากชีวิตการเรียนไปสู่ชีวิตการทำงานอย่างราบรื่น โดยมีแพลตฟอร์ม Career Tools เป็นแพลตฟอร์มส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านจากสถานศึกษาสู่สถานที่ทำงานที่ใหญ่ที่สุดในออสเตรเลีย ซึ่งมีสถานศึกษาสมัครเป็นสมาชิกมากกว่า 1,250 แห่ง ทั้งนี้ ในปี 2566 Year13 ได้เข้าซื้อกิจการ Good Education Group ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการศึกษาสำหรับนักเรียนนักศึกษาและผู้ปกครองที่ครบวงจรที่สุดในออสเตรเลีย โดยครอบคลุมทั้งการศึกษาขั้นพื้นฐาน อุดมศึกษา เทคนิคศึกษา และการฝึกอบรม
เกี่ยวกับการวิจัย
ผู้ตอบแบบสำรวจจากทั่วประเทศรวม 2,091 คน ประกอบด้วยผู้หญิง 48% และผู้ชาย 49% ส่วนผู้ตอบแบบสำรวจจาก Scape มีจำนวน 1,421 คน ประกอบด้วยผู้หญิง 61% และผู้ชาย 36%
Source : ผลวิจัยเผย GEN Z ไม่ละเลยปัญหาสุขภาพจิตของตนเอง เน้นแก้ปัญหาเชิงรุกด้วยการบำบัด
The information provided in this article was created by Cision PR Newswire, our news partner. The author's opinions and the content shared on this page are their own and may not necessarily represent the perspectives of Thailand Business Directory.