เจนีวา, 31 ตุลาคม 2566 /พีอาร์นิวส์ไวร์/ดาต้าเซ็ต
โรงเรียนกลอเรีย มาเรีย คาลคานโญ่ (Gloria María Calcaño) ตั้งอยู่ในเมืองซานเชซ (Sanchez) ทางตะวันออกเฉียงเหนือของสาธารณรัฐโดมินิกัน เป็นโรงเรียนโพลีเทคนิคที่มีนักเรียน 326 คน และครู 21 คน โดยการที่โรงเรียนแห่งนี้ตั้งอยู่ห่างไกลและมีแหล่งจ่ายไฟฟ้าที่ไม่เสถียร ทำให้ทางโรงเรียนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก ในโรงเรียนมีห้องเรียน 8 ห้อง ห้องปฏิบัติการ 6 ห้อง สำนักงาน 1 ห้อง โรงอาหาร 1 ห้อง และห้องเรียนอเนกประสงค์ 1 ห้อง ปัญหาไฟฟ้าขัดข้องที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งส่งผลกระทบต่อเวลาเรียนของนักเรียนมากกว่า 51 เปอร์เซ็นต์ และกิจกรรมการสอนและการทดลองจำนวนมากมักถูกขัดจังหวะเนื่องจากไฟฟ้าไม่เพียงพอหรือแหล่งจ่ายไฟไม่เสถียร
"เพื่อแก้ไขปัญหาไฟฟ้าไม่เพียงพอในโรงเรียน ส่งเสริมความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของอุปกรณ์การศึกษา และเพิ่มประสิทธิภาพคุณภาพการสอน เราได้บริจาคโมดูลเซลล์แสงอาทิตย์ขนาด 5.5 กิโลวัตต์ให้กับโรงเรียนแห่งนี้ในสาธารณรัฐโดมินิกัน หลังจากติดตั้งระบบเซลล์แสงอาทิตย์แล้ว ห้องปฏิบัติการของโรงเรียนจะผลิตไฟฟ้าได้เอง นอกจากนี้ ระบบเซลล์แสงอาทิตย์ยังสามารถจ่ายพลังงานให้กับระบบกักเก็บพลังงานได้อย่างต่อเนื่องเมื่อแหล่งจ่ายไฟเดิมไม่เพียงพอ การบริจาคดังกล่าวได้ยกระดับโครงสร้างพื้นฐานของโรงเรียนอย่างมาก ทำให้ปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพในเรื่องคุณภาพการสอนของโรงเรียนอย่างครอบคลุม"
คุณเดนนิส เชอ (Dennis She) รองประธานของลอนจี กล่าวระหว่างการประชุมดับบลิวทีโอ พับลิก ฟอรัม (WTO Public Forum) ประจำปี 2566 ที่เมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นเวทีที่รวมเหล่าผู้เชี่ยวชาญจากอุตสาหกรรมต่าง ๆ เข้าไว้ด้วยกัน โดยเป็นการหารือเกี่ยวกับวิธีที่ "การค้าและองค์การการค้าโลกจะสามารถช่วยสร้างอนาคตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและยั่งยืนมากขึ้น" ลอนจีในฐานะผู้เข้าร่วมซึ่งเป็นตัวแทนของอุตสาหกรรมพลังงานสะอาด ได้ผลักดันแนวคิด "ความเสมอภาคด้านพลังงาน" ซึ่งได้รับความสนใจอย่างมากจากทุกภาคส่วน
คุณเดนนิสกล่าวว่า ความไม่สมดุลที่อยู่ในการพัฒนาเศรษฐกิจโลกได้นำไปสู่ความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญในการใช้พลังงานต่อประชากรของประเทศต่าง ๆ โดยกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ของพลังงานทั่วโลกถูกใช้โดยกลุ่มประเทศเศรษฐกิจชั้นนำ 20 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ความยากจนด้านพลังงานจึงเป็นอุปสรรคโดยตรงต่อการพัฒนาเศรษฐกิจในท้องถิ่นและการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ซึ่งรวมถึงการศึกษา
โรงเรียนบางแห่งในพื้นที่ด้อยพัฒนาหรือพื้นที่ห่างไกล มักดำเนินกิจกรรมการศึกษาหรือจัดการสอนตามปกติไม่ได้ เนื่องจากประสบปัญหาขาดแคลนพลังงาน ส่งผลให้ความพยายามในการผลักดันความเสมอภาคทางการศึกษาทั่วโลกได้รับผลกระทบ นอกจากนี้ ในบริบทของการลดคาร์บอนทั่วโลกและการเปลี่ยนแปลงพลังงาน การส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดในวงกว้างอย่างจริงจังและการยกระดับการศึกษาสำหรับผู้คนรุ่นต่อไปไม่เพียงแต่เป็นการกระทำที่ถูกต้องตามหลักศีลธรรมเท่านั้น แต่ยังเป็นสิ่งที่จำเป็นและเร่งด่วนอีกด้วย
คุณเดนนิสเชื่อว่า การจัดหาพลังงานสะอาดด้วยเซลล์แสงอาทิตย์เป็นหลักจะกลายเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในการส่งเสริมการพัฒนาที่สอดคล้องกันทั่วโลก เพื่อรับมือกับความท้าทายที่เกิดขึ้นอันเป็นผลจากความแตกต่างของประเทศต่าง ๆ ในการใช้พลังงานและการกระจายแหล่งพลังงานอย่างไม่ยุติธรรม ความเสมอภาคด้านพลังงานขึ้นอยู่กับการให้บริการพลังงานที่สะอาด ราคาเอื้อมถึง และไม่เลือกปฏิบัติ ขณะที่พลังงานแสงอาทิตย์มีอยู่ทั่วโลกและเข้าถึงได้ง่ายกว่าเชื้อเพลิงฟอสซิลแบบดั้งเดิม และเอื้อต่อประเทศด้อยพัฒนามากกว่า การพัฒนาเทคโนโลยีเซลล์แสงอาทิตย์อย่างต่อเนื่องจะทำให้ต้นทุนของพลังงานแสงอาทิตย์ลดลงอย่างรวดเร็ว การพัฒนาพลังงานทดแทนในวงกว้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งพลังงานแสงอาทิตย์จึงสามารถเพิ่มอิสระด้านพลังงาน ส่งเสริมความสอดคล้องกันในระดับโลก และลดผลกระทบมากมายที่เกิดจากวิกฤตพลังงาน
ในฐานะบริษัทเทคโนโลยีพลังงานสีเขียวชั้นนำของโลก ลอนจีมุ่งมั่นที่จะรวบรวมความพยายามร่วมกันของฝ่ายต่าง ๆ มาโดยตลอด เพื่อต่อสู้กับความยากจนด้วยเทคโนโลยีเซลล์แสงอาทิตย์ ส่งเสริมการศึกษาคุณภาพสูงในพื้นที่ที่ขาดแคลนพลังงาน และจุดประกายอนาคตเยาวชนด้วยพลังงานแสงอาทิตย์
นอกจากสาธารณรัฐโดมินิกันแล้ว ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาลอนจียังได้บริจาคโมดูลเซลล์แสงอาทิตย์ให้กับโรงเรียนในพื้นที่ด้อยพัฒนาทางเศรษฐกิจ เช่น เมืองมาร์ดานในปากีสถาน และประเทศมาลาวีในแอฟริกา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ขาดแคลนแหล่งพลังงาน สิ่งเหล่านี้ได้ยกระดับสภาพโครงสร้างพื้นฐานของสถานศึกษาหลายแห่งเป็นอย่างมาก พร้อมวางรากฐานแห่งอนาคตที่สว่างไสวให้กับเหล่าเยาวชน
ในปัจจุบัน ภารกิจด้านสิ่งแวดล้อมและสวัสดิการสาธารณะของลอนจียังคงดำเนินไปทั่วโลก บ่มเพาะเมล็ดพันธุ์แห่ง "แสงสว่าง" ในหัวใจของเด็ก ๆ จำนวนมากขึ้นในพื้นที่ที่ขาดแคลนพลังงานไฟฟ้าทั่วโลก เราเชื่อว่าในอนาคตอันใกล้นี้ ไม่เพียงแต่โรงเรียนในพื้นที่ที่ห่างไกล แต่รวมถึงพื้นที่อยู่อาศัย โรงพยาบาล ฟาร์ม และองค์กรการค้าอื่น ๆ ทั่วโลกที่ประสบปัญหาขาดแคลนพลังงาน จะเข้าถึงพลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และเจริญรุ่งเรืองมากขึ้น อันเนื่องมาจากการใช้งานเซลล์แสงอาทิตย์ในวงกว้าง
เกี่ยวกับลอนจี
ลอนจี (LONGi) ก่อตั้งขึ้นในปี 2543 โดยมุ่งมั่นที่จะก้าวขึ้นเป็นบริษัทเทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์ชั้นนำระดับโลก มุ่งเน้นไปที่การสร้างคุณค่าโดยมีความต้องการของลูกค้าเป็นตัวขับเคลื่อน เพื่อการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานอย่างเต็มรูปแบบ
พันธกิจของลอนจีคือ "การนำพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้ประโยชน์ให้ได้มากที่สุดเพื่อสร้างโลกสีเขียว" บริษัทอุทิศตนเพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมทางเทคโนโลยี โดยได้ก่อตั้งธุรกิจขึ้นมาห้าภาคส่วน ประกอบด้วยเซลล์และโมดูลเวเฟอร์โมโนคริสตัลไลน์ซิลิคอน โซลูชันพลังงานแสงอาทิตย์แบบกระจายศูนย์เชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรม โซลูชันพลังงานสีเขียว และอุปกรณ์ไฮโดรเจน ทั้งนี้ บริษัทได้ขยายขีดความสามารถในการจัดหาพลังงานสีเขียวอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อไม่นานมานี้ได้นำโซลูชันและผลิตภัณฑ์ไฮโดรเจนสีเขียวมาประยุกต์ใช้เพื่อสนับสนุนเป้าหมายคาร์บอนเป็นศูนย์ทั่วโลก
Source : "ลอนจี" มุ่งสร้างความเสมอภาคด้านพลังงาน จุดประกายอนาคตเยาวชนด้วยพลังงานแสงอาทิตย์
The information provided in this article was created by Cision PR Newswire, our news partner.The author's opinions and the content shared on this page are their own and may not necessarily represent the perspectives of Thailand Business Directory.