เซินเจิ้น, จีน–29 พฤศจิกายน 2566–พีอาร์นิวส์ไวร์/ดาต้าเซ็ต
การประชุมเพื่อความยั่งยืนของหัวเว่ย ประจำปี 2566 (Huawei’s 2023 Sustainability Forum) และการประชุมย่อยระดับภูมิภาค ได้ปิดฉากลงแล้วเมื่อวานนี้ โดยการประชุมดังกล่าวจัดขึ้นในหัวข้อ “ก้าวไปข้างหน้าพร้อมเทคโนโลยี: บรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน” (Thriving Together with Tech: Realizing Sustainable Development) และมีการประชุมย่อยระดับภูมิภาค 5 แห่งในประเทศจีน อิตาลี กานา ปากีสถาน และบราซิล เพื่อนำเสนอแนวปฏิบัติด้านความยั่งยืนที่ดีที่สุดจากหัวเว่ยและเหล่าพันธมิตร
ในประเทศบราซิล หัวเว่ยกำลังร่วมมือกับ เวโลโซ เน็ต (Veloso Net) ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรคมนาคมในท้องถิ่น เพื่อให้บริการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่เสถียรแก่ประชากรมากกว่า 30% ที่ยังเข้าไม่ถึงอินเทอร์เน็ตในรัฐอามาโซนัส นอกจากนี้ หัวเว่ยยังประกาศแผนที่จะร่วมมือกับองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) เพื่อดำเนินโครงการเทคฟอร์เนเจอร์ (Tech4Nature) ในการปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพไปพร้อมกับการส่งเสริมการพัฒนาชุมชนท้องถิ่น
ในการประชุมหลักซึ่งจัดขึ้นที่เมืองตงก่วน ประเทศจีน คุณเจฟฟรีย์ แซคส์ (Jeffrey Sachs) ประธานเครือข่ายโซลูชันการพัฒนาที่ยั่งยืนแห่งสหประชาชาติ (UN Sustainable Development Solutions Network) กรรมาธิการของคณะกรรมาธิการบรอดแบนด์เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนแห่งสหประชาชาติ (UN Broadband Commission for Sustainable Development) และศาสตราจารย์ประจำมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย (Columbia University) ได้กล่าวปาฐกถา โดยอธิบายว่าความท้าทายระดับโลกกำลังมีความซับซ้อนมากขึ้นเรื่อย ๆ “เราอยู่ในยุคที่ความท้าทายเพิ่มมากขึ้น และความต้องการเทคโนโลยีก้าวล้ำดังเช่นที่หัวเว่ยให้บริการนั้นก็มีความเร่งด่วนมากยิ่งขึ้น”
คุณแซคส์เน้นย้ำถึงบทบาทสำคัญของเทคโนโลยีดิจิทัลว่า “อย่างน้อยทุกคนในสังคม รวมถึงกลุ่มคนที่ยากจนที่สุดในโลก ก็ยังมีสิทธิเข้าถึงเทคโนโลยีได้ ตราบใดที่อยู่ใกล้สถานีฐาน มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต และมีอุปกรณ์สื่อสาร”
บรรดาผู้เข้าร่วมการประชุมต่างเน้นย้ำว่า เทคโนโลยีดิจิทัลจะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและความสามารถในการฟื้นตัวทั้งของธรรมชาติและมนุษยชาติเมื่อเผชิญกับความเสี่ยงและความท้าทาย ทั้งยังช่วยส่งเสริมความยั่งยืนอีกด้วย โดยคุณเจฟฟรีย์ โจว (Jeffrey Zhou) ประธานฝ่ายการตลาดไอซีทีของหัวเว่ย กล่าวว่า “เรากำลังใช้พลังของเทคโนโลยีดิจิทัลร่วมกับพันธมิตรของเรา เพื่อขับเคลื่อนความเท่าเทียมทางดิจิทัล รวมทั้งสร้างโลกดิจิทัลที่ครอบคลุมทั่วถึงและยั่งยืน”
ในมณฑลยูนนาน ประเทศจีน การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่ได้รับการปรับปรุงด้วยโซลูชัน 5G ของหัวเว่ย ได้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการปลูกกาแฟและเพิ่มคุณภาพของเมล็ดกาแฟ โดยโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลดังกล่าวทำให้อีคอมเมิร์ซและการสตรีมวิดีโอได้รับความนิยม ซึ่งช่วยยกระดับอุตสาหกรรมกาแฟในท้องถิ่น และทำให้กาแฟท้องถิ่นกลายเป็นแบรนด์ที่มีมูลค่าในหมู่ผู้บริโภค
ในประเทศอิตาลี โครงการเทคฟอร์ออล เนเจอร์ การ์เดียน (TECH4ALL Nature Guardian) ของหัวเว่ย ได้ร่วมมือกับองค์การกองทุนสัตว์ป่าโลก (WWF) ประเทศอิตาลี ติดตั้งระบบตรวจจับเสียงเทคโนโลยีคลาวด์และเอไอในฟาร์มเชิงนิเวศและฟาร์มแบบดั้งเดิม 16 แห่ง โดยพบว่ามีสัตว์สายพันธุ์ต่าง ๆ อาศัยอยู่ในฟาร์มเชิงนิเวศมากกว่าฟาร์มแบบดั้งเดิมประมาณ 10%
ในหมู่บ้านโกคินา ประเทศปากีสถาน หัวเว่ยและพันธมิตรได้นำการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตมาสู่ชุมชนท้องถิ่น ช่วยให้เกิดโครงการการแพทย์ทางไกลและการศึกษาทางไกล ชาวบ้านในหมู่บ้านห่างไกลจึงเข้าถึงบริการทางการแพทย์ที่มีคุณภาพได้ในยามจำเป็น
ในประเทศกานา หัวเว่ยได้ร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อสร้างโรงไฟฟ้าไฮบริดพลังงานน้ำและพลังงานแสงอาทิตย์แบบลอยน้ำแห่งแรกในแอฟริกาตะวันตก ซึ่งจ่ายไฟฟ้าให้กับโรงงานมะม่วงหิมพานต์ในภูมิภาคโบโน และสร้างงานให้กับชาวบ้านมากกว่า 800 คน ซึ่งรวมถึงผู้หญิงด้วย
คุณรีเบกกา อาคูโฟ-แอดโด (Rebecca Akufo-Addo) สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของสาธารณรัฐกานา ได้กล่าวชื่นชมหัวเว่ยที่มีคุณูปการต่อการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศกานา
“ในขณะที่ทั่วโลกพยายามเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โครงการอย่างโรงไฟฟ้าไฮบริดพลังงานน้ำและพลังงานแสงอาทิตย์ก็แสดงให้เห็นว่ากานากำลังมาถูกทางในการสร้างอนาคตดิจิทัลที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม” เธอกล่าว
คุณแซคส์กล่าวทิ้งท้ายว่า “ผมหวังว่าศักยภาพอันมหาศาลของหัวเว่ยทั้งในด้าน 5G เครื่องใช้ไฟฟ้า การออกแบบระบบ คอนเทนต์ และแพลตฟอร์ม จะสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับโครงการใหญ่อื่น ๆ ได้ เราต้องการให้โลกได้รับรู้ว่า เรามีโซลูชันและกลไกที่พร้อมนำไปใช้งานในวงกว้าง”
The information provided in this article was created by Cision PR Newswire, our news partner. The author's opinions and the content shared on this page are their own and may not necessarily represent the perspectives of Thailand Business Directory.