กรุงเทพฯ 15 พฤษภาคม 2566 – นายยล โภคะทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น หรือ CRC กล่าวว่า “สำหรับผลการดำเนินงานโดยรวมของเซ็นทรัล รีเทล บริษัทประสบความสำเร็จในการเริ่มต้นธุรกิจได้อย่างดีเยี่ยมในทุกกลุ่มธุรกิจ โดยมีรายได้และกำไรสูงกว่าช่วงก่อนวิกฤตโควิด-19 เซ็นทรัล รีเทล เผยผลประกอบการไตรมาส 1 มีรายได้รวม 63,206 ล้านบาท (+12% YoY) EBITDA 8,179 ล้านบาท (+24% YoY) และมีกำไรสุทธิ 2,312 ล้านบาท (+75% YoY) บริษัทมียอดขายเติบโต 30% ในหมวดแฟชั่น และ 9% ในหมวดอาหาร ยอดขายกลุ่มฮาร์ดไลน์ในตลาดไทยยังเติบโตต่อเนื่องที่ 9% แม้ว่าอุตสาหกรรมจะมีแนวโน้มลดลงก็ตาม ผลลัพธ์เหล่านี้เป็นสัญญาณเชิงบวก ซึ่งบ่งชี้ถึงแนวโน้มการเติบโตต่อไปของ Central Retail ในปี 2566 โดยบรรลุเป้าหมายการเติบโตและผลักดันรายได้เพิ่มขึ้น 12-15%”

ปัจจัยแห่งความสำเร็จสำหรับการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของ Central Retail ในประเทศไทยและตลาดต่างประเทศ ได้แก่ ความแข็งแกร่งของพอร์ตโฟลิโอที่ยืดหยุ่น ความคล่องตัวในการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลง และความสามารถในการดำเนินการเชิงกลยุทธ์เพื่อเปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาสในช่วงวิกฤตโควิด-19 บริษัทยังคงพัฒนาร้านค้าอย่างต่อเนื่องพร้อมทั้งยกระดับแพลตฟอร์ม Next-Gen Omnichannel ด้วยเหตุนี้ ความพยายามเหล่านี้ส่งผลให้บริษัทมีผลประกอบการไตรมาส 1 ที่แข็งแกร่ง ซึ่งได้รับการเสริมแรงเพิ่มเติมจากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมค้าปลีกและบริการ และการกลับมาของนักเดินทางต่างชาติด้วยการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น ไฮไลท์ทางธุรกิจที่สำคัญสำหรับไตรมาส 1/2566 ได้แก่:

ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลและโรบินสัน ยังคงเติบโตและพัฒนาอย่างต่อเนื่องอันเป็นผลมาจากพันธกิจในการมอบประสบการณ์การช้อปปิ้งระดับต่อไปให้กับลูกค้า ทั้งการเปิดตัวแบรนด์ใหม่ บริการโซลูชั่นครบวงจรที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคอย่างลึกซึ้ง และแผนการขยายและปรับปรุงห้างสรรพสินค้าโรบินสันเป็นห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์และความต้องการของลูกค้าในแต่ละพื้นที่ได้ดียิ่งขึ้น หลังจากได้รับการตอบรับเชิงบวกจากสาขาเมกา บางนา และขอนแก่น ได้รับการยกระดับเป็นห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล พร้อมการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวระหว่างประเทศ ธุรกิจแฟชั่นของเซ็นทรัล รีเทล ในประเทศไทยและอิตาลี เติบโตอย่างก้าวกระโดดถึง 30%

นอกจากนี้ ปริมาณการใช้ห้างสรรพสินค้ายังสูงขึ้นมาก โดยเฉพาะในเมืองสำคัญและสถานที่ท่องเที่ยว เนื่องจากร้านค้าเหล่านี้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ทุกรูปแบบ ร้านค้าสำคัญ ได้แก่ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลและโรบินสันในภูเก็ต พัทยากลาง เซ็นทรัลชิดลม และเซ็นทรัลเวิลด์ นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ติดอันดับ 5 อันดับแรก ได้แก่ รัสเซีย จีน ยุโรปตะวันออกกลาง และซาอุดีอาระเบีย ตามลำดับ ซึ่งสร้างยอดขายนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเกือบ 200% สำหรับห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลและโรบินสันในช่วงไตรมาสที่ 1 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกัน เพิ่มขึ้น 16% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2564 (ก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19) ปัจจุบันมีสาขาในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลและโรบินสันรวม 75 สาขาทั่วประเทศ โดยมีแผนจะเปิดสาขาเพิ่มเติมอีก 2 แห่งในปีนี้

ไทวัสดุ กลุ่มฮาร์ดไลน์ยังคงแข็งแกร่งและเติบโตอย่างต่อเนื่องแม้จะดำเนินธุรกิจมาเพียง 12 ปีก็ตาม ปัจจุบัน ไทวัสดุ ขึ้นแท่นอันดับ 2 หมวดฮาร์ดไลน์ของไทยที่ยังเติบโตต่อเนื่อง แม้หมวดก่อสร้างและ DIY ชะลอตัวในไตรมาส 1/2566 โดยรวมแล้วไทวัสดุสร้างยอดขายเติบโต 15% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2565 พร้อมเดินหน้าแผนขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีสาขาไทวัสดุและบีเอ็นบีโฮมทั้งหมด 74 สาขา ทั่วประเทศ ครอบคลุม 43 จังหวัด ในปีนี้บริษัทมีแผนเปิดสาขาทั้งหมด 10 สาขา ภายใต้ 2 รูปแบบหลัก ได้แก่ ไทวัสดุ และ ไทวัสดุ x บีแอนด์บีโฮม (รูปแบบไฮบริด) ด้วยจำนวนลูกค้าประจำกว่า 1 ล้านราย ตั้งเป้าเสริมความแข็งแกร่งฐานลูกค้าและแอปพลิเคชันไทวัสดุ พร้อมบริการ Omnichannel แบบครบวงจร

ท็อปส์ซู, ภายใต้กลยุทธ์ One Brand ผสานทุกรูปแบบการค้าปลีกภายใต้แบรนด์ ‘ท็อปส์’ เข้ากับแนวคิด ‘Every Day DISCOVERY’ ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้าน Food Discovery & Destination นำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ตอบโจทย์ผู้บริโภคอย่างครอบคลุม ช่วยให้ท็อปส์มียอดขายเติบโต 16% ในไตรมาส 1/2566 เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2565 นอกจากนี้ บริษัทวางแผนที่จะเปิดตัวสาขาเพิ่มเติมอีก 15 แห่งในปีนี้ และยังคงปรับปรุงแพลตฟอร์ม Omnichannel เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคอย่างครอบคลุม

โรบินสันไลฟ์สไตล์ ถือเป็นห้างสรรพสินค้าชั้นนำที่มีการขยายสาขามากที่สุดในประเทศไทย รวม 27 สาขา ใน 25 จังหวัดทั่วประเทศ ภายใต้แนวคิด ‘ไลฟ์สไตล์และชุมชนแห่งประสบการณ์’ โรบินสันไลฟ์สไตล์ถูกวางตำแหน่งให้เป็นแหล่งช้อปปิ้งที่สะดวกสบายสำหรับทุกครอบครัว ส่งผลให้บริษัทประสบความสำเร็จอย่างมากและได้รับผลตอบรับเชิงบวกจากลูกค้า โดยรายได้จากค่าเช่าและบริการในไตรมาสที่ 1 เติบโตขึ้น 24% จากลูกค้าชาวไทยและต่างประเทศ ปริมาณการเข้าชมร้านค้าก็ฟื้นตัวเกือบ 100% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19 ปัจจุบัน โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ยังคงเดินหน้าตามแผนการขยายและปรับปรุง โดยในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ มีแผนที่จะเปิดตัวสาขาใหม่ โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ เจ้าฟ้า ในภูเก็ต เพื่อรองรับการกลับมาของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ

ในเวียดนาม, Central Retail เติบโตต่อเนื่อง ตอกย้ำความแข็งแกร่งจาก 2 โมเดลที่ประสบความสำเร็จ ได้แก่ GO! ห้างสรรพสินค้าและไฮเปอร์มาร์เก็ตที่ยังคงปรับปรุงและยกระดับให้สอดคล้องกับความต้องการสมัยใหม่ ส่งผลให้มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการและอัตราการเข้าพักของผู้เช่าเพิ่มขึ้น ขณะนี้ไป! ได้รับการรีแบรนด์จากบิ๊กซีเกือบ 100% และมีสาขาทั้งหมด 39 สาขาใน 29 จังหวัดจาก 63 จังหวัดในประเทศเวียดนาม ส่วนไป! ซูเปอร์มาร์เก็ตซึ่งนำเสนออาหารสดและแฟชั่นที่เข้าถึงได้เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคชาวเวียดนามยุคใหม่ แบรนด์ยังคงเร่งการขยายตัวในทุกชุมชนและทุกกลุ่มลูกค้า ขณะนี้ไป! ซุปเปอร์มาร์เก็ตมีทั้งหมด 5 สาขา และมีแผนเปิดเพิ่มอีก 5-7 สาขาในปีนี้

“หลังจากประสบความสำเร็จในการเริ่มต้นไตรมาส 1/2566 ได้อย่างดีเยี่ยม เซ็นทรัล รีเทล มองว่านี่เป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่และเป็นสัญญาณเชิงบวกที่ว่าเราจะสามารถบรรลุเป้าหมายการเติบโตในปี 2566 ด้วยการเติบโตของรายได้ 12-15% ปัจจุบัน Central Retail ยังคงเดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจด้วยความระมัดระวังควบคู่ไปกับการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ท้ายที่สุดแล้ว บริษัทยังคงมุ่งมั่นในภารกิจในการขับเคลื่อนการเติบโตแบบครอบคลุม ซึ่งตอกย้ำความเชื่อมั่นของเราในฐานะผู้ค้าปลีกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและยั่งยืน และผู้ค้าปลีกต้นแบบอันดับ 1 ของเอเชียในด้านความยั่งยืน” นายยล กล่าวสรุป


Source : เซ็นทรัล รีเทล เติบโตแข็งแกร่งในไตรมาส 1 มีรายได้ 63,206 ล้านบาท (+12%) พร้อมกำไร…

Sign In

Register

Reset Password

Please enter your username or email address, you will receive a link to create a new password via email.