ปักกิ่ง, 3 กันยายน 2567 /PRNewswire/ — โครงการพลังงานลมอดามา (Adama) ตั้งอยู่ห่างจากกรุงแอดดิสอาบาบาไปทางตะวันออกเฉียงใต้ 95 กิโลเมตร ที่ใจกลางของรอยเลื่อนแอฟริกาตะวันออก (East African Rift) โดยมีจุดเด่นน่าสนใจเป็นกังหันลมสีขาวสูงถึง 80 เมตร โครงการนี้สร้างขึ้นโดยบริษัทของจีน และเป็นสัญลักษณ์สำคัญของความร่วมมือระหว่างจีนและประเทศในทวีปแอฟริกา
ตั้งแต่เริ่มดำเนินการในเดือนพฤษภาคม 2558 กังหันลมเหล่านี้ก็กลายเป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญให้แก่ประชาชนราว 600,000 ครัวเรือน โดยช่วยบรรเทาปัญหาขาดแคลนพลังงานในเอธิโอเปีย ลดความจำเป็นในการใช้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าดีเซล และส่งเสริมให้เกิดการเติบโตทางเศรษฐกิจ เกิดการสร้างงานในท้องถิ่นประมาณ 2,100 ตำแหน่ง และมหาวิทยาลัยหลายแห่งได้เข้าร่วมในการฝึกอบรมและบำรุงรักษา ประสบการณ์ที่ได้จากภาคปฏิบัติจริงนี้ช่วยเตรียมผู้คนจำนวนมากให้มีความพร้อมสำหรับบทบาทอนาคตในภาคพลังงานลมของเอธิโอเปีย
นอกจากนี้ เมืองอดามายังเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ โดยมีประชากรเพิ่มขึ้นจาก 324,000 คนในปี 2558 เป็นกว่า 480,000 คนในปี 2566 โครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับการพัฒนาปรับปรุงดีขึ้นและการลงทุนยังสามารถดึงดูดธุรกิจจากประเทศต่าง ๆ และนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ของเมืองอย่างรวดเร็ว สำหรับชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียง การปรับปรุงการคมนาคมขนส่ง ระบบไฟฟ้าที่เชื่อถือได้ และการเข้าถึงการศึกษาและการดูแลสุขภาพที่ดีขึ้นสามารถยกระดับคุณภาพชีวิตของพวกเขาได้อย่างมาก
บริษัทของจีนได้นำเทคโนโลยีสีเขียวขั้นสูงมาสู่เอธิโอเปีย ช่วยให้รัฐบาลบรรลุเป้าหมายด้านพลังงานหมุนเวียน ความร่วมมือนี้ยังมีส่วนช่วยเปลี่ยนแปลงไปสู่สังคมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทั่วโลก
จีนและประเทศในทวีปแอฟริกามีมิตรภาพที่ยาวนานมาตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่สอง และในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ได้เกิดความร่วมมือเพิ่มขึ้นผ่านโครงการริเริ่มต่าง ๆ เช่น โครงการริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt and Road Initiative หรือ BRI) โดยโครงการด้านโครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับการสนับสนุนจากจีน ตั้งแต่ทางรถไฟและถนนไปจนถึงฟาร์มกังหันลมและโรงไฟฟ้า รวมถึงโรงเรียนและโรงพยาบาล ช่วยส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจของแอฟริกาทั่วทั้งทวีป
ตัวอย่างเช่น ทางรถไฟแอดดิสอาบาบา – จิบูตี (Addis Ababa–Djibouti) ซึ่งเป็นเส้นทางคมนาคมขนส่งที่เชื่อมต่อเอธิโอเปียและจิบูตีสามารถลดเวลาการเดินทางลงได้อย่างมาก ทั้งยังลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ และเพิ่มการเติบโตทางเศรษฐกิจในท้องถิ่น จนถึงปัจจุบัน ทางรถไฟสายนี้ได้ขนส่งผู้โดยสาร 680,000 คน และสินค้าจำนวน 9.5 ล้านตัน โดยมีอัตราการเติบโตด้านรายได้เฉลี่ยต่อปี 39%
จากข้อมูลของเอกสารปกขาว “จีนและแอฟริกาในยุคใหม่: ความร่วมมือในฐานะพันธมิตรที่เท่าเทียมกัน” (China and Africa in the New Era: A Partnership of Equals) ซึ่งเผยแพร่โดยคณะมุขมนตรีของจีนในปี 2564 นับตั้งแต่การจัดตั้งการประชุมว่าด้วยความร่วมมือจีน-แอฟริกา (Forum on China-Africa Cooperation: FOCAC) ในปี 2543 บริษัทของจีนได้ช่วยประเทศในทวีปแอฟริกาสร้างหรือปรับปรุงเส้นทางรถไฟกว่า 10,000 กิโลเมตร ทางหลวงเกือบ 100,000 กิโลเมตร สะพานประมาณ 1,000 แห่ง ท่าเรือเกือบ 100 แห่ง และสายส่งและจ่ายพลังงานไฟฟ้าความยาว 66,000 กิโลเมตร
สายสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้น
นอกจากโครงการ BRI แล้ว จีนและประเทศในทวีปแอฟริกายังได้พัฒนาความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้นด้วยปริมาณการค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีสินค้าโภคภัณฑ์และบริการที่หลากหลาย จีนเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของแอฟริกาติดต่อกันเป็นเวลา 15 ปี ข้อมูลจากสำนักงานศุลกากรของจีนแสดงให้เห็นว่าการค้าระหว่างจีนและแอฟริกาสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 282.1 พันล้านดอลลาร์ในปี 2566 โดยเพิ่มขึ้น 1.5 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบปีต่อปี และการค้าระหว่างจีนและแอฟริกาเพิ่มขึ้น 5.5 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบปีต่อปี เป็น 1.19 ล้านล้านหยวน (ประมาณ 166.6 พันล้านดอลลาร์) ระหว่างเดือนมกราคมถึงกรกฎาคม
Sang Baichuan คณบดีสถาบันเศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศที่มหาวิทยาลัยธุรกิจและเศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศของจีนกล่าวว่า การค้าระหว่างจีนและแอฟริกาเติบโตอย่างรวดเร็วอันเป็นผลมาจากความร่วมมือที่ได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย โดยเขากล่าวว่า เศรษฐกิจของจีนและประเทศในแอฟริกามีความเกื้อกูลกันอย่างสูง เนื่องจากจีนมีเทคโนโลยีและอุปกรณ์เครื่องมือที่พัฒนาแล้วและใช้ได้จริง รวมทั้งมีทุนทรัพย์ที่เพียงพอ ในขณะที่ประเทศในทวีปแอฟริกามีความได้เปรียบอย่างสูงในด้านแรงงานและทรัพยากรธรรมชาติ
“การเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างจีนและแอฟริกาได้รับประโยชน์จากการใช้ข้อได้เปรียบของทั้งสองฝ่ายและตลาดขนาดใหญ่ ทั้งยังสามารถบรรลุถึงผลประโยชน์ร่วมกันและการพัฒนาที่ได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย” Sang กล่าว
Diane Sayinzoga เจ้าหน้าที่อาวุโสจากการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (UNCTAD) ยังได้กล่าวชื่นชมความเป็นพันธมิตรทางการค้าระหว่างจีนและแอฟริกา โดยกล่าวว่าความสัมพันธ์ดังกล่าวช่วยอำนวยความสะดวกในการดำเนินโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ที่มีความสำคัญต่อการบูรณาการทางเศรษฐกิจและการเติบโตของทวีปแอฟริกา
เธอเสริมว่า ความช่วยเหลือของจีนสอดคล้องกับเป้าหมายของ UNCTAD ในการส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนของแอฟริกาด้วยการเพิ่มขีดความสามารถในการผลิต เพิ่มโอกาสทางการค้า ส่งเสริมความหลากหลายทางเศรษฐกิจ และบูรณาการประเทศในทวีปแอฟริกาเข้าสู่ห่วงโซ่คุณค่าระดับโลก
ปักกิ่งมีกำหนดจะจัดการประชุมสุดยอด FOCAC ประจำปี 2567 ตั้งแต่วันที่ 4 ถึง 6 กันยายน ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าการประชุมนี้จะเป็นโอกาสสำคัญให้แก่จีนและแอฟริกาในการกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น เพื่อบรรลุผลประโยชน์ร่วมกันและขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่มีร่วมกัน
“การประชุม FOCAC ได้นำไปสู่การทำข้อตกลงมากมายเกี่ยวกับการลงทุน การค้า และโครงการพัฒนาระหว่างจีนและประเทศในทวีปแอฟริกาเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาร่วมกัน ซึ่งสอดคล้องกับภารกิจของ UNCTAD อย่างสมบูรณ์แบบ” Sayinzoga กล่าว
The information provided in this article was created by Cision PR Newswire, our news partner. The author's opinions and the content shared on this page are their own and may not necessarily represent the perspectives of Thailand Business Directory.