นิวยอร์กและนอยดา, อินเดีย, 12 พ.ย. 2567/PRNewswire/ — HCLTech บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลก ได้เผยแพร่งานวิจัยด้านความสามารถในการรับมือภัยทางไซเบอร์ระดับโลก (Global Cyber Resilience Study) ประจำปี 2567-2568 โดยให้รายละเอียดเกี่ยวกับลำดับความสำคัญเชิงกลยุทธ์ที่มุ่งเสริมเกราะความพร้อมและความสามารถในการรับมือภัยทางไซเบอร์ รายงานดังกล่าวรวบรวมมุมมองจากผู้บริหารกว่า 1,500 รายจากหลากหลายอุตสาหกรรมในอเมริกาเหนือ ยุโรป ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์
ตามรายงาน ผู้บริหารด้านความปลอดภัย 81% คาดว่าองค์กรของตนจะประสบการโจมตีทางไซเบอร์ในอีก 12 เดือนข้างหน้า โดยมีเพียง 48% ที่เชื่อว่าสามารถป้องกันได้ ผู้บริหารด้านความปลอดภัย 54% ระบุว่าการโจมตีที่เกิดจาก AI คือประเด็นความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่สำคัญที่สุด ผู้บริหารด้านความปลอดภัย 76% เคยเผชิญความยากลำบากระดับสูงถึงปานกลางในการกลับมาดำเนินธุรกิจเต็มรูปแบบหลังถูกโจมตีทางไซเบอร์
“การสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลสำหรับองค์กรสมัยใหม่จำเป็นต้องมีความสามารถที่เข้มแข็งในการป้องกัน ตอบสนอง และฟื้นฟูต่อการโจมตีทางไซเบอร์ เมื่อภัยคุกคามจาก AI มีมากขึ้นและการฟื้นตัวทำได้ซับซ้อนยิ่งขึ้น การใช้กลยุทธ์ที่เน้นความสามารถในการรับมืออย่างครอบคลุมจึงเป็นสิ่งจำเป็น ซึ่งรวมถึงการลงทุนในโซลูชันเพื่อรับมือภัยไซเบอร์ การควบคุมแบบ zero-trust และระบบอัตโนมัติที่ใช้ AI ช่วย อีกทั้งปรับปรุงประสิทธิภาพเครื่องมือความปลอดภัยผ่านแนวทางที่ใช้แพลตฟอร์ม ด้วยประสบการณ์กว่า 26 ปี เราเชื่อว่าโซลูชันที่เรามีจะช่วยให้องค์กรต่าง ๆ มีสมดุลที่แข็งแกร่งขึ้นระหว่างการบริหารจัดการความเสี่ยงด้านไซเบอร์และรับมือแรงกดดันด้านต้นทุน นำไปสู่การผลักดันประสิทธิภาพการดำเนินงานที่เพิ่มมากขึ้นในที่สุด” Jagadeshwar Gattu ประธาน ฝ่ายบริการพื้นฐานทางดิจิทัล บริษัท HCLTech กล่าว
อเมริกาเหนือพบว่ามีการรายงานโจมตีสูงที่สุด โดยผู้บริหารด้านความปลอดภัยที่สำรวจ 64% เผยว่าองค์กรของตนเคยตกเป็นเป้าหมาย ตามมาด้วยยุโรป 57% และ 51% ในภูมิภาคออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ เพื่อตอบสนองภัยคุกคามที่เพิ่มจำนวนขึ้น ผู้บริหารด้านความปลอดภัย 63% วางแผนเพิ่มการลงทุนด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ในอีก 12 เดือนข้างหน้า การปรับปรุงการบริหารจัดการความเสี่ยงและการกำกับดูแลปรากฏเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้นในผู้ตอบแบบสำรวจ 84% ตามติดมาด้วยการลงทุนในระบบอัตโนมัติด้าน SOC (ศูนย์ปฏิบัติการด้านความปลอดภัย) (76%) และความสามารถในการตอบสนองต่อเหตุการณ์และการฟื้นฟู (75%) สะท้อนให้เห็นการให้ความสำคัญอย่างชัดเจนต่อการเสริมสร้างมาตรการความปลอดภัยทางไซเบอร์ทั้งเชิงรุกและเชิงรับ
ในขณะที่ผู้บริหารด้านความปลอดภัยเพียง 35% รู้สึกมั่นใจในความเชี่ยวชาญของบริษัทตนเองในการบริหารความเสี่ยงด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ 90% คาดว่าจะพึ่งพาแหล่งภายนอกในการเสริมความสามารถบริษัท นอกจากนี้ เพียง 37% รู้สึกว่าตนมีประสิทธิผลในการสื่อสารทัศนคติด้านความปลอดภัยไอทีขององค์กรไปยังคณะกรรมการและผู้บริหารระดับสูง ซึ่งเป็นการเน้นช่องว่างระหว่างความเชี่ยวชาญในบริษัทและการสื่อสารเชิงกลยุทธ์ที่ระดับผู้บริหาร
“ความปลอดภัยทางไซเบอร์คือความสามารถเชิงกลยุทธ์สำหรับธุรกิจต่าง ๆ และ CISO และ CRO (ประธานเจ้าหน้าที่บริหารความเสี่ยง) ต้องทำหน้าที่เป็นสะพานสำคัญที่เชื่อมระหว่างคณะกรรมการและทีมงานเทคโนโลยี/ธุรกิจ เพื่อเปลี่ยนผ่านไปสู่การกำกับดูแลความเสี่ยงแบบเรียลไทม์และการดำเนินการควบคุมเพื่อรับมือกับสภาวะภัยคุกคามที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ขณะที่ภัยคุกคามทางไซเบอร์เปลี่ยนไปทุกวัน การดำเนินนโยบายไซเบอร์อย่างมีประสิทธิผลนั้นต้องพึ่งพาระบบอัตโนมัติและ AI มากขึ้นเรื่อย ๆ” Amit Jain ผู้บริหารระดับสูง และหัวหน้าทีมระดับโลก ฝ่ายบริการความปลอดภัยทางไซเบอร์ บริษัท HCLTech “กรอบการทำงานด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่ไดนามิกของ HCLTech ออกแบบมาตอบโจทย์ความท้าทายเหล่านี้ โดยปรับปรุงความสัมพันธ์กับผู้มีส่วนได้เสียและเสริมให้ความเตรียมพร้อมรับมือภัยไซเบอร์เห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้น”
อ่านรายงานฉบับเต็มได้ที่ https://www.hcltech.com/digital-foundation/cyber-resilience-report
เกี่ยวกับ HCLTech
HCLTech คือบริษัทเทคโนโลยีระดับโลก มีพนักงานกว่า 218,000 คนทั่ว 59 ประเทศ โดยมอบความสามารถชั้นนำในอุตสาหกรรม เน้นด้านดิจิทัล วิศวกรรม คลาวด์ และ AI ขับเคลื่อนโดยกลุ่มผลิตภัณฑ์และบริการเทคโนโลยีที่หลากหลาย เราทำงานร่วมกับลูกค้าจากหลากธุรกิจ จัดหาโซลูชันระดับอุตสาหกรรมให้ภาคส่วนบริการทางการเงิน การผลิต วิทยาศาสตร์ชีวภาพและบริการสุขภาพ เทคโนโลยีและการบริการ โทรคมนาคมและสื่อ ค้าปลีกและสินค้าอุปโภคบริโภคบรรจุหีบห่อ และราชการ รายได้รวมในระยะเวลา 12 เดือนสิ้นสุดเดือนกันยายน 2567 อยู่ที่ 13.7 หมื่นล้านเหรียญ ศึกษาวิธีที่เราช่วยให้คุณก้าวหน้าแบบก้าวกระโดดได้ที่ hcltech.com.
The information provided in this article was created by Cision PR Newswire, our news partner. The author's opinions and the content shared on this page are their own and may not necessarily represent the perspectives of Thailand Business Directory.